KS Daily View 30 ต.ค. 2025

วิเคราะห์โดย KS Research Fundamental

30 ต.ค. 2568

KS Daily View 30 ต.ค. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,300-1,310 จุด หลังเฟดลดดอกเบี้ย25bps เป็น 3.75-4.00% ตามที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามการแถลงของ Powell ดู Hawkish เนื่องจากยังดูมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในอนาคต แนะนำ KTB และ BEM

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน ดัชนี S&P500 ทรงตัวจากวันที่ผ่านมา, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.55%, และ Dow Jones ลดลง 0.16% หลังจากเฟดประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไรก็ตามประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่าการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคมนั้นยังไม่แน่นอน ขณะที Nasdaq ได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของ Nvidia

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,315.64 จุดเพิ่มขึ้น +1.36 จุด (+0.10%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มขนส่ง, และกลุ่มสื่อสาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,300-1,310 จุด หลังเฟดลดดอกเบี้ย25bps เป็น 3.75-4.00% ตามที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามการแถลงของ Powell ดู Hawkish เนื่องจากยังดูมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในอนาคต ส่งผลให้น้ำหนักโอกาสการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมลดลงจาก 100% เหลือเพียง 60% พร้อมส่งสัญญาณยุติ QT ในเดือนธ.ค.นี้เป็นต้นไป ในส่วนของตลาดหุ้นไทย เรามีมุมมองมองบวกต่อแนวโน้มกำไรรวมใน 3Q25 ยังคงแข็งแกร่งเติบโตขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ หลังไม่มีกำไรพิเศษของ GULF SCC TOP THAI หากไม่รวมรายการดังกว่าใน 2Q25 อาจยังคงเห็นแนวโน้มกำไร 3Q25 เติบโตได้ทั้ง YoY ละ QoQ ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นมีของผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งใน3Q25 อย่าง KTB และ BEM ได้ประโยชน์ของ cost of fund ที่จะปรับลดในอนาคต

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

คณะกรรมการ FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐมีมติ 10-2 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ตามคาดการณ์ของตลาด พร้อมประกาศยุตินโยบายคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT) ตั้งแต่ 1 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวล เคยระบุว่า เฟดใกล้ถึงจุดยุติการลดงบดุลที่มีมูลค่ากว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากก่อนหน้านี้เฟดได้ใช้มาตรการ QT เพื่อลดสภาพคล่องที่เกิดขึ้นจากการเข้าซื้อพันธบัตรจำนวนมากในช่วงโควิด-19 มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับตลาดหุ้นโลก

โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เปิดให้ประชาชนเริ่มใช้จ่ายวันแรก (29 ต.ค. 2025) โดยมีผู้ใช้จ่ายแล้วกว่า 2.49 ล้านราย มียอดใช้จ่ายรวมกว่า 501 ล้านบาท แบ่งเป็นประชาชนจ่าย 252 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 248 ล้านบาท ประชาชนสามารถใช้สิทธิได้ถึง 31 ธ.ค. 2025 ผ่านแอป “เป๋าตัง” และต้องเริ่มใช้สิทธิภายใน 11 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ ร้านค้ายังสมัครเข้าร่วมได้ถึง 19 ธ.ค. และจะเริ่มให้สั่งอาหารผ่าน Food Delivery ได้ตั้งแต่ 7 พ.ย. มองเป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPAXT BJC

รัฐบาลบราซิลเปิดเผยว่า ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศอาจต้องหยุดสายการผลิตภายใน 2–3 สัปดาห์ หากวิกฤตขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกยังไม่คลี่คลาย โดยสาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งระหว่างจีนและเนเธอร์แลนด์ กรณีบริษัทผลิตชิปทุนจีน “เน็กซ์พีเรีย” (Nexperia) ซึ่งถูกทางการเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมเมื่อเดือนกันยายน เนื่องจากกังวลเรื่องการย้ายฐานการผลิตไปจีน ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่นต่างเตือนว่าความขัดแย้งนี้อาจซ้ำเติมปัญหาชิปขาดแคลน มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับ KCE

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลออกมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักในเมืองรองที่อยู่ในระบบภาษีของรัฐ ให้สามารถหักค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงหรือรีโนเวตสถานประกอบการได้เป็น 2 เท่าของจำนวนเงินที่จ่ายจริง โดยมาตรการมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2025 ถึง 31 มีนาคม 2026 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในภาคบริการท้องถิ่น มองเป็นบวกกับ DOHOME GLOBAL HMPRO ILM

เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.–ก.ย.) มียอดยื่นขอส่งเสริมการลงทุนรวม 2,622 โครงการ เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 1.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 94% โดยบีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมแล้วกว่า 2,400 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างงานให้คนไทยกว่า 175,000 ตำแหน่ง และเพิ่มมูลค่าการส่งออกของประเทศอีกกว่า 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี มองเป็นบวกกับ AMATA และ WHA

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

KTB: ราคาพื้นฐาน 26.25 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB หลังรายงานกำไร 3Q25 ที่ 1.46 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 31% QoQ และ 32% YoY ผลประกอบการสูงกว่าคาด 18% และสอดคล้องกับประมาณการของตลาด กำไรที่สูงกว่าคาดเกิดจากกำไรจากการลงทุนที่รับรู้ได้สูงกว่าคาดและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Opex) ต่ำกว่าคาด 7% ทั้งนี้มองว่าแนวโน้มของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีจำกัดในช่วงเวลาที่เหลือโดยประเมิน terminal rate ในการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1% เทียบกับระดับปัจจุจันที่ 1.50% ที่ช่วยลดแรงกดดันในกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้เราประเมิณ KTB มีโอกาสในการทำ capital management เพิ่มไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นคืนหรือเพิ่ม payout ratio เองก็ตาม

BEM: ราคาพื้นฐาน 10.85 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BEM หลังฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้ประกาศจัดอันดับเครดิตระยะยาวในประเทศของ BEM ที่ระดับ ‘A(tha)’ พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ที่จะส้งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลงจาก credit spread ที่ลดลง และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ในขณะเดียวกัน ปัจจัยกระตุ้นใกล้คือการอนุมัติโครงการทางด่วนสองชั้น (มูลค่า 3–3.5 หมื่นล้านบาท) ใน 4Q25 ที่คาดว่า BEM จะได้สิทธิบริหาร แลกกับการขยายสัมปทาน FES และ SES ออกไปอีก 20 ปี เพิ่มมูลค่า 1.3–1.5 บาท/หุ้น และยังมีอัพไซด์จากการได้สัญญา O&M รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ในปี 2026 ซึ่งจะเปิดใช้ในปี 2029 ช่วยเสริมการเติบโตระยะยาว

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันพฤหัสบดี ติดตามผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้าและผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB interest rate decision) ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วยการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ใน 3Q25 ของโซนยุโรปครั้งแรกตลาดคาดการณ์ที่ +1.2% YoY ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 1.5% YoY ต่อด้วยการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ใน 3Q25 ของสหรัฐครั้งแรกตลาดคาดการณ์ที่ +3.0% QoQ ชะลอตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.8% QoQ

วันศุกร์ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (NBS Manufacturing PMI) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.6 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.8 จุด

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน