KS: กลุ่ม Gadget การมาถึงของ Tools for Humanity (TFH)
มีอะไรใหม่?
เราได้จัดงาน KS C-series กับคุณโอภาส เฉิดพันธุ์ CEO ของ MVP เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจและการผนึกกำลังที่อาจเกิดขึ้นกับ COM7 ซึ่งมีนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้าร่วม 23 ราย ตั้งแต่การลงนามข้อตกลงหลักเมื่อวันที่ 8 เม.ย. MVP ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการเจ้าเดียวในไทยร่วมกับ Tools for Humanity Co., Ltd ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดย World ID Co., Ltd โดย World ID ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 โดย แซม อัลท์แมน, อเล็กซ์ บลาเนีย และ แม็กซ์ โนเวนด์สเทิร์น โดย World ID มองว่าประเทศไทยเป็นที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์เนื่องจากมีการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่สูง และมองว่า MVP ควรเป็นพาร์ทเนอร์เพียงรายเดียว เนื่องจากความเชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การออก MVP Coin ในปี 2564 ควบคู่ไปกับความสัมพันธ์กับผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีหลายราย ผู้ใช้ชาวไทยที่ยืนยันตัวตนผ่านการสแกนม่านตาด้วยเครื่อง orb ของ MVP จะได้รับ 54 Worldcoin (WLD) ซึ่งเท่ากับ 2,200 บาท MVP มีแผนจะเปิดตัวแอปพลิเคชัน MVP Wallet ในวันที่ 23 ต.ค. ในงาน Thailand’s Mobile Expo และมีแผนจะเปิดตัว MVP Exchange ในเดือนก.พ. 2569
โมเดลธุรกิจ MVP
สำหรับโครงสร้างรายได้ MVP จะได้รับรายได้จากสองแหล่งคือ
- การรับรู้รายได้ครั้งเดียวจาก World ID
- รายได้ประจำจากสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจที่มีอยู่เดิม เช่น ธุรกิจจัดงานนิทรรศการ
โดยสำหรับการรับรู้รายได้ครั้งเดียว ทาง World ID จะจ่ายให้ MVP ครั้งละ 100 บาทต่อคนสำหรับการยืนยันตัวตนผ่านการสแกนม่านตา และสำหรับแพลตฟอร์ม MVP Exchange บริษัทคาดว่าจะได้รับรายได้ประจำจากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.1-0.2% ต่อธุรกรรม และค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจากการออกสินทรัพย์ดิจิทัลในแพลตฟอร์ม MVP ทั้งนี้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า World ID ตั้งเป้าหมายที่จะเข้าถึงผู้ใช้ 10-15 ล้านคนในประเทศไทย หรือคิดเป็น 15-22% ของประชากรทั้งหมด ขณะที่ MVP ตั้งเป้าหมายเข้าถึง 750 ร้านค้าปลีกสินค้าไอที ในด้านต้นทุน MVP จะรับภาระต้นทุนจากการเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีและต้นทุนพนักงาน
ผลกระทบต่อ COM7
เรายังคงมุมมองเชิงลบเล็กน้อยต่อธุรกรรมที่เกี่ยวข้องของ COM7 กับ MVP ที่ประกาศเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ประการแรก การผนึกกำลังระหว่าง COM7 กับการดำเนินงานสินทรัพย์ดิจิทัลของ MVP ยังไม่ชัดเจนและยังไม่เกิดขึ้นจริง ประการที่สอง เราเชื่อว่าเป้าหมายของ MVP ในการพลิกกลับมามีกำไรในครึ่งแรกของปี 2569 จะเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจาก MVP มีผลขาดทุนสุทธิ 50 ลบ. และมีฐานรายได้เพียง 71 ลบ.ในครึ่งแรกของปี 2568 อย่างไรก็ตาม หาก MVP สามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ เราเชื่อว่าส่วนแบ่งกำไรที่จะรับรู้สำหรับ COM7 จะมีเพียงเล็กน้อย
มุมมอง KS
- มุมมองเป็นกลาง เรายังคงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มแกดเจ็ต และเลือก ADVICE (“ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 7.78 บาท) และ SYNEX (“ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 16.55) เป็นหุ้นเด่นจากแนวโน้มกำไรครึ่งหลังของปี 2568 ที่แข็งแกร่งและมีมูลค่าซื้อขายที่ถูกกว่า COM7 เราเชื่อว่าทั้ง ADVICE และ SYNEX ปัจจุบันซื้อขายในระดับมูลค่าที่น่าสนใจ โดย ADVICE ซื้อขายด้วย PER ปี 2568/69 อยู่ที่ 12.9 เท่า/11.6 เท่า เทียบกับระดับอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของกำไรปกติ 3 ปีที่ 15.5% ขณะที่ SYNEX ซื้อขายด้วย PER ปี 2568/69 อยู่ที่ 12.4 เท่า/10.3 เท่า เทียบกับ CAGR ของกำไรปกติ 3 ปีที่ 23% เรายังคงมุมมองว่ารายได้ของกลุ่มแกดเจ็ต จะแตะจุดสูงสุดในไตรมาส 4 หนุนจากคาดการณ์ยอดขาย iPhone 17 ที่ดี
- ปัจจัยเสี่ยง
- การตั้งสำรอง ECL สำหรับโปรแกรมการเงินที่สูงกว่าคาด
- ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะหยุดวัฏจักรการเปลี่ยนอุปกรณ์

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #หุ้นไทย #Gadget #COM7 #SYNEX #ADVICE #iPhone16 #iPhone #มือถือ