KS: Energy & Utilities Sector ปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานของไทย

KS: Energy & Utilities Sector ปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานของไทย

Analysis by KS Research Fundamental
Dec 2, 2025
Back

⚡️ KS: Energy & Utilities Sector ปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานของไทย

📌 อะไรใหม่? คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้อนุมัติมาตรการสำคัญ 5 ประการ เพื่อยกเครื่องสูตรราคาก๊าซธรรมชาติ อีกทั้ง นำเสนอโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชนขนาด 1,500 MW และปรับโครงสร้างกฎระเบียบการจัดหาไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ภายใต้กรอบราคาก๊าซใหม่นี้ ทั้งนี้ ก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในโรงแยกก๊าซ (GSP) และการผลิตก๊าซ LPG จะถูกกำหนดราคาโดยอ้างอิงจากราคาก๊าซเฉลี่ยของอ่าวไทยบวกเพิ่มอีก 10% ในขณะที่ก๊าซสำหรับการผลิตไฟฟ้า การขนส่ง (NGV) และการใช้ในภาคอุตสาหกรรมจะยังคงใช้ราคาเฉลี่ยรวม ซึ่งคำนวณจากค่าเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย ก๊าซจากเมียนมา และ LNG นำเข้า โดยราคาใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ม.ค.2569 เป็นต้นไป

📌 ผลกระทบจากโครงสร้างราคาก๊าซใหม่ ส่งผลดีต่อ PTT และน้ำมันขายปลีก เรามองเห็นประโยชน์อย่างมากต่อ PTT จากต้นทุนก๊าซที่ลดลง โดยก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยมีราคาถูกกว่าราคาเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติรวมทุกแหล่งในปัจจุบันประมาณ 30-40% เราคำนวณผลประโยชน์ดังกล่าวได้ประมาณ 1.24 หมื่นลบ./ปี (กำไรต่อหุ้น: +0.44 บาท/หุ้น) โดยอ้างอิงจากราคาก๊าซธรรมชาติจริงของแต่ละแหล่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 นอกจากนี้ โครงสร้างราคาก๊าซใหม่นี้ยังส่งผลดีทางอ้อมต่อผู้ประกอบการน้ำมันขายปลีก เนื่องจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติสำหรับการผลิตก๊าซ LPG ที่จะลดลง ซึ่งหมายถึงการลดลงของการขาดดุลของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (บัญชี LPG) และเปิดโอกาสให้มี upside ต่อค่าการตลาดขายปลีกน้ำมัน ทั้งนี้ เรามองเห็นผลกระทบเชิงลบเล็กน้อยต่อต้นทุนอีเทนของ PTTGC เนื่องจากสูตรราคาเอเทนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

📌 คาดราคาต้นทุนก๊าซจะเพิ่มขึ้น 3-5% ในทางกลับกัน เราคาดว่าราคาต้นทุนก๊าซธรรมชาติรวมทุกแหล่งในปี 2569 จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยส่วนใหญ่ (30-35% ของปริมาณการผลิตในอ่าวไทยทั้งหมด) จะถูกจัดสรรให้กับ GSP ก่อน ทำให้เหลือปริมาณก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเพียง 65-70% ที่ถูกนำไปรวมคำนวณสำหรับราคาก๊าซรวมทุกแหล่ง แม้ว่าก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่เหลือที่เข้าสู่ราคาทุกแหล่งรวมจะได้รับส่วนลด 10% จาก GSP แต่ส่วนลดดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากส่วนผสมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ เราประเมินว่าราคาต้นทุนก๊าซจะเพิ่มขึ้น 10-15 บาท/mmBTU หรือประมาณ 3-5% จากโครงสร้างราคาต้นทุนก๊าซแบบ Single pool ในปัจจุบัน

🎯 มุมมอง KS
📌 มุมมองเชิงลบต่อโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ เรามองว่าโครงสร้างก๊าซที่ปรับปรุงใหม่เป็นลบต่อโรงไฟฟ้า SPP โดยเฉพาะที่มีกลไกค่าไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกับค่า Ft อย่าง GPSC และ BGRIM ทั้งนี้ เราประเมินว่าต้นทุนการผลิตจะเพิ่มขึ้น 0.07-0.12 บาท/ kWh ซึ่งจะกดดันกำไรสุทธิของแต่ละบริษัทประมาณ 6-7% ต่อปี โดยผลกระทบที่แท้จริงอาจต่ำกว่านี้ ขึ้นอยู่กับ 1) การปรับค่า Ft ในปี 2569 2) แนวโน้มราคา LNG และ 3) การชำระคืนค่าไฟฟ้าค้างจ่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผ่านค่า Ft ดังนั้น โดยรวมแล้ว เราคาดว่าผลประโยชน์จากแนวโน้มราคาก๊าซที่ลดลงจะถูกชดเชยด้วยผลกระทบของโครงสร้างราคาก๊าซใหม่นี้ ซึ่งจะจำกัด upside ต่ออัตรากำไรขั้นต้นที่เคยคาดว่าจะสูงขึ้นในปี 2569 อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลยังคงอัตราค่าไฟฟ้าไว้ที่ 3.94 บาท/ kWh หรือปรับเพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นนี้ ผลกระทบจากสูตรราคาใหม่น่าจะมีอยู่อย่างจำกัด
📌 มุมมองเชิงบวกเล็กน้อยต่อโครงการโซลาร์ชุมชนขนาด 1,500 MW เรามองว่าจะมี upside ต่อกลุ่มสาธารณูปโภคจากการจัดสรรโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่นี้เล็กน้อย โดยเราประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ประมาณ 1 ลบ.ต่อ MW อิงจากต้นทุนโครงการที่ 20 ลบ. FiT ที่ 2.17 บาท/kWh และ WACC ที่ 7% อย่างไรก็ตาม upside จะถูกกระจายไปยังผู้พัฒนาโครงการหลายราย ส่งผลต่อส่วนแบ่งกำไรของผู้ประกอบการรายใหญ่เพียงเล็กน้อย

Energy-and-Utilities-Sector-1200x1200.jpg

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads

KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #หุ้นไทย #EnergySector #กลุ่มพลังงาน #โรงไฟฟ้า #ปรับราคาก๊าซ #Utilities

Search

Recommended searches