KS Daily View 25 ธ.ค. 2025

Analysis by KS Research Strategy

Dec 25, 2025

Back

☀️KS Daily View 25 ธ.ค. 2025>>> ประเมินกรอบ SET index ที่ 1,270-1,280 จุด มองภาพระยะสั้นยังคงเป็น sideway pattern เนื่องด้วยเข้าสู่เทศกาลวันหยุดยาว และลุ้น SET index ทดสอบ 1,280 จุด แนะนำ ADVANC และ ERW

📊 แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดตลาดที่ 1,275.33 เพิ่มขึ้น 4.22 จุด (+0.33%) นำโดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โรงพยาบาล และปิโตรเคมี วันนี้เราประเมินกรอบ SET index ที่ 1,270-1,280 จุด คาดว่า SET index อาจไปทดสอบแนวต้านเชิงจิตวิทยา 1,280 จุด และมองภาพระยะสั้นยังคงเป็น sideway pattern เนื่องด้วยเข้าสู่เทศกาลวันหยุดยาว ในส่วนของปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ ตัวเลขส่งออกไทยเดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.0% YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.7% YoY โดยคาดว่ากลุ่มสิ้นค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเติบโตได้ดีตามเทรนด์ส่งออกของโลกจากความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ในขณะเดียวกันปัจจัยที่ต้องติดตามเพิ่ม กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ส่งหนังสือขอเจรจาหยุดยิงอย่างเป็นทางการมายังฝ่ายไทยวานนี้ ซึ่งจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างวันที่ 24–27 ธันวาคม 2025 ที่จันทบุรี หากสามารถหาข้อยุติได้ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนเป็นบวกและเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับมา ในส่วนของกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำ ADVANC จากแนวโน้มของกำไรจากผลประกอบการหลัก 4Q25 เติบโตขึ้น YoY และ QoQ ประกอบกับ บริษัทจะประกาศเงินปันผลครึ่งหลังปี 2025 ที่ 7.89 บาทต่อหุ้น และ ERW จากแนวโน้มของกำไรใน 4Q25 ที่ฟื้นตัวขึ้นตามฤดูการท่องเที่ยว ทั้งนี้ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงเนื่องจากหนี้สินของ ERW เป็น 100% floating rate

🚩ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ระบุว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคภูมิใจพร้อมเดินหน้าหากเป็นรัฐบาลในช่วง 73 วันแรกได้เดินหน้านโยบายเร่งด่วนแบบ Quick Big Win ต่อเนื่องอย่าง โครงการคนละครึ่งพลัส โครงการเที่ยวดีมีคืน เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ มาตรการปิดหนี้ไว พร้อมเสนอนโยบายเพิ่มเติม "เศรษฐกิจ 10 Plus" อย่างเช่น ลดค่าไฟไม่เกิน 3 บาท/หน่วย (ใช้ไฟไม่เกิน 200 หน่วย) บัญชีการออมส่วนบุคคล (TISA) ที่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ การท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ 2 เท่า และ โครงการ Thailand Fast Track เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ

• กระทรวงการต่างประเทศย้ำจุดยืนเงื่อนไขการหยุดยิงชายแดนไทย–กัมพูชา โดยกำหนดให้กัมพูชาปฏิบัติตามเงื่อนไขจริง 3 ประการ คือ ประกาศหยุดยิงก่อน ยุติการใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง และร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดคือกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ส่งหนังสือขอเจรจาหยุดยิงอย่างเป็นทางการมายังฝ่ายไทย และนำไปสู่การจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างวันที่ 24–27 ธันวาคม 2025 ที่จันทบุรี หากมีการยุดยิงมองเป็น sentiment เชิงบวกกับ SAV

• สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ระบุว่า การเดินทางทางอากาศช่วงปลายปี 2025 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยข้อมูล ณ วันที่ 21 ธ.ค. มีผู้โดยสารผ่านสนามบินทั่วประเทศราว 4.8 แสนคนต่อวัน ใกล้ระดับก่อนโควิด-19 โดยเส้นทางระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนมีผู้โดยสารประมาณ 19,852 คน คิดเป็นร้อยละ 75 ของระดับก่อนโควิด-19 ขณะที่ผู้โดยสารจากประเทศอินเดียมีจำนวน 10,616 คน สูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ประมาณร้อยละ 10 มองเป็นบวกกับ AAV BA

• GPSC เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการซื้อหุ้น บริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด (RPCL) เพิ่มเติมจนเสร็จสิ้นตามสัญญา ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มจาก 15% เป็น 24.375% และมีผลสมบูรณ์เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2025 ทำให้ RPCL เปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทร่วมของ GPSC โดยการลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นในระยะยาว

• นครชัยแอร์เปิดเผยว่าได้ยื่นประมูลโครงการผลิตและประกอบรถโดยสารไฟฟ้าของ ขสมก. มูลค่า 15,355 ล้านบาท จำนวน 1,520 คัน ผ่านระบบ e-bidding โดยหากชนะประมูลจะมอบหมายให้บริษัท เน็กซ์ พอยท์ (NEX) เป็นผู้ผลิตและประกอบรถไฟฟ้ารายเดียว

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

🎯 ADVANC: ราคาพื้นฐาน 331.32 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกกับ ADVANC จากแนวโน้มกำไรจากผลประกอบการหลักใน 4Q25 คาดที่ 1.26 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 36.3% YoY และ 6.2% QoQ หนุนจากรายได้ปกติที่เติบโตขึ้นแข็งแกร่ง การประหยัดต้นทุนคลื่นความถี่ (ผ่านค่าใช้จ่าย D&A) และต้นทุนทางการเงินที่ลดลง โดยพรีวิวกำไรปกติช่วง 12 เดือนของปี 2025 คิดเป็น 107.5% ของประมาณการกำไรปกติปี ทั้งนี้คาดว่า ADVANC จะประกาศเงินปันผล 2H25 ที่ 7.89 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 95% และอัตราตอบแทนเงินปันผลต่อปีที่ 4.72%

🎯 ERW: ราคาพื้นฐาน 3.28 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ ERW จากความคาดหวังการฟื้นตัวในปี 2026 โดยเราประเมิณว่ามีโอกาสที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2025 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอย่างมากจากผลกระทบไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านความปลอดภัย แผ่นดินไหว หรือการปะทะกันระหว่างไทยกัมพูชา เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2026 จะฟื้นตัวขึ้นจากปีนี้จากการเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวจีน โดยเราคาด ERW จะได้ประโยชน์สูงสุดหากการท่องเที่ยวในประเทศฟื้นเนื่องจากเป็น pure-play domestic hotel ที่มีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในไทยสูงราว 70% อีกทั้งใน 4Q25 นี้เริ่มเห็นการฟื้นตัวของ Revpar จากจำนวน booking ที่ทำได้ค่อนข้างดี พร้อมกับเราเชื่อว่า ERW จะได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงเช่นกันเนื่องจากหนี้สินของ ERW เป็น 100% floating rate

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

✅วันพฤหัสบดี ติดตาม สุนทรพจน์ของนายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่นในการประชุมสมาชิกสภาเคดันเรน ณ กรุงโตเกียวและการรายงานตัวเลขส่งออก (TH Exports) จากกระทรวงพาณิชย์ เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 5.7% YoY และตัวเลขนำเข้า (TH Imports) ตลาดคาดการณ์ที่ 14.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 16.3% YoY

✅วันศุกร์ ติดตามการรายงานเงินเฟ้อของกรุงโตเกียว (Tokyo CPI) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.3% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.7% YoY และเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

📝 เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

⛳Follow us :

📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW