KS Daily View 18 ธ.ค. 2025

Analysis by KS Research Strategy

Dec 18, 2025

Back

☀️KS Daily View 18 ธ.ค. 2025>>> ประเมินกรอบ SET index ที่ 1,250-1,265 จุด ที่อาจเห็นการฟื้นตัวของกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมัน rebound หลังแตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังมีรายงานว่า เวเนซุเอลาเผชิญความเสี่ยงต้องปิดหลุมผลิตน้ำมันบางส่วน แนะนำ PTTEP และ KKP

📊 แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดตลาดที่ 1,256.85 ลดลง 3.83 จุด (-0.30%) แม้ว่ากนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดดอกเบี้ยนโยบาย 25bps แต่เป็นไปตามตลาดคาด จาก 1.50% เป็น 1.25% หลังเศรษฐกิจอ่อนแอขยายตัวต่ำ เงินเฟ้อติดลบ 8 เดือนติด ท่ามกลางการหดตัวของการปล่อยสินเชื่อในระบบ ทั้งนี้คาดว่ากนง. มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงต่ออีก 25bps ในปีหน้าหรือ เหลือ 1.00% สำหรับสิ้นปี 2026 โดยมองการลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้จะช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนช่วงสั้น ด้านภาพรวมตลาดเราประเมิน SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,250 – 1,280 ไปจนจบปี 2025 นี้ แม้มีประเด็นลบเข้ามากดดันแต่ยังมีเม็ดเงินซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีช่วยหนุน

ในส่วนของปัจจัยที่ต้องติดตามเพิ่มเติม การประชุมพิเศษระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 22 ธ.ค. ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในการหารือการหยุดยิงและข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา หากมีการหยุดยิงอาจหนุนให้ บรรยากาศการลงทุนกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง รวมไปถึงการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเองซึ่งเป็นกลุ่มหลักเดินทางเข้าไทยในปัจจุบัน ในวันนี้เราประเมินกรอบ SET index ที่ 1,250-1,265 จุด ที่อาจเห็นการฟื้นตัวของกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมัน rebound หลังแตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังมีรายงานว่า เวเนซุเอลาเผชิญความเสี่ยงต้องปิดหลุมผลิตน้ำมันบางส่วน หลังการยึดเรือบรรทุกน้ำมันโดยสหรัฐฯ และแผนสกัดกั้นเรือที่ถูกคว่ำบาตร ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ PTTEP และ KKP

🚩ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1. จีนเตรียมส่งทูตพิเศษฝ่ายกิจการเอเชียเดินทางเยือนไทยและกัมพูชาในวันที่ 18 ธ.ค. เพื่อประสานงานและผลักดันการฟื้นฟูสันติภาพโดยเร็ว ขณะที่มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนเผยว่า ไทยและกัมพูชาตกลงเข้าร่วมการประชุมพิเศษระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 22 ธ.ค. ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ความตึงเครียดตามแนวชายแดนทวีความรุนแรง โดยอาเซียนเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการปะทะและเคารพการพักรบและหาทางออกอย่างสันติ

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นราว 1.2% ในคืนที่ผ่านมาหลังราคาน้ำมันร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี โดยได้แรงหนุนจากคำประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์ที่สหรัฐฯ จะปิดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรไม่ให้เข้าออกเวเนซุเอลา ซึ่งช่วยกลบความกังวลก่อนหน้านี้เกี่ยวกับอุปทานส่วนเกินจากความเป็นไปได้ที่น้ำมันรัสเซียจะกลับสู่ตลาด ขณะที่เวเนซุเอลา ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งโอเปกและมีสำรองน้ำมันมากที่สุดในโลก มองเป็นบวกกับ PTTEP และกลุ่ม refineries จากแนวโน้มของ inventory loss ที่ลดลง

• ในขณะเดียวกันมีรายงานว่า เวเนซุเอลาเผชิญความเสี่ยงต้องปิดหลุมผลิตน้ำมันบางส่วน หลังการยึดเรือบรรทุกน้ำมันโดยสหรัฐฯ และแผนสกัดกั้นเรือที่ถูกคว่ำบาตร ทำให้การส่งออกชะงักและพื้นที่เก็บน้ำมันใกล้เต็ม โดยคาดว่าคลังและเรือที่ท่าเรืออาจเต็มภายในประมาณ 10 วัน ซึ่งจะกระทบต่อการผลิตและรายได้จากน้ำมันของประเทศ

• สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2026 จะมุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับผู้สูงวัย จากการที่ไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอดในช่วงปี 2030–2031 ขณะเดียวกันตลาดบ้านมือสองเติบโตโดดเด่นจนยอดโอนแซงบ้านใหม่ โดยข้อมูล REIC ระบุว่าบ้านมือสองมีสัดส่วนการโอนถึง 66% ของจำนวนทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการเริ่มหันมาทำตลาดบ้านมือสองมากขึ้นผ่านการร่วมมือกับบริษัทบริหารสินทรัพย์และการนำทรัพย์ NPA มาปรับปรุงเพื่อจำหน่ายต่อ มองเป็นบวกกับ BAM

• ททท. ระบุว่า ตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลของไทยยังเติบโตแข็งแกร่งและมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่อง โดยล่าสุด ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2025 จำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลที่เดินทางเข้าไทยสะสมทะลุ 10 ล้านคนเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหลังวิกฤตโควิด-19 มองเป็นบวกกับกลุ่มโรงแรมอย่าง CENTEL ERW SHR

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

🎯 PTTEP: ราคาพื้นฐาน 127.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ PTTEP จากระดับมูลค่าที่น่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายที่ราว -1SD (2026 PBV 0.8x, PE 7.x) และให้ Dividend yield กว่า 7% หรือราว 8.5 บาท/หุ้น โดยยังมีโอกาสรักษาจ่ายปันผลใกล้ระดับปี 2024 ที่ 9.5 บาท/หุ้น จากฐานะการเงินแข็งแกร่ง (IBD/E เพียง 0.24x ใน 2Q25) และกระแสเงินสดอิสระที่มั่นคง ในเชิงกลยุทธ์ เราคาด PTTEP อาจ Outperform ใน 4Q25 จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่มักปรับขึ้น 14–20% ภายใน 3–12 เดือนหลังเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย อีกทั้ง IEA, OPEC และ EIA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2025–2026 ขณะที่สต๊อก middle distillate ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และฤดูหนาวจะหนุน GRM เพิ่มแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน โดย PTTEP มีสัดส่วนยอดขายจากน้ำมันดิบราว 30% ซึ่งจะได้ประโยชน์โดยตรง

🎯 KKP: ราคาพื้นฐาน 74.50 บาท

งาน Motor Expo 2025 ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายโดยได้รับแรงหนุนจากโครงการอุดหนุน EV3.0 ปีสุดท้าย ซึ่ง EV คิดเป็นครึ่งหนึ่งของยอดจองทั้งหมด ทั้งนี้ KKP ถือเป็นหนึ่งในธนาคารผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อ อีกทั้งคาดจะประโยชน์จากแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อเช่าซื้อที่ดีขึ้น รวมถึงอานิสงค์บวกจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายที่ช่วยทำให้ ของธนาคาร NIM ปรับตัวดีขึ้น

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

✅วันพฤหัสบดี ติดตามผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB interest rate decision) ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า และการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (US CPI) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.1% YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US core CPI) ตลาดคาดที่ +3.0% YoY

✅วันศุกร์ ติดตามผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps จากเดิมที่ระดับ 0.50% เป็น 0.75%

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

📝 เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

⛳Follow us :

📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW