👨⚕️ KS: EKH รายได้เพิ่มขึ้น แต่ความสามารถในการทำกำไรช้ากว่า
📌 บริษัทคาดการเติบโตจะแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 4/2568 และปี 2569
ผู้บริหารชี้แจงระหว่างการประชุมนักวิเคราะห์ประจำไตรมาส 3/2568 ในสัปดาห์ที่แล้วว่ารายได้ไตรมาส 4/2568 น่าจะทรงตัว QoQ (7-8% YoY) จากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลของโรคไข้หวัดใหญ่ ขณะที่กำไรเฉพาะของ รพ.เอกชัยน่าจะเติบโตในอัตราตัวเลข 2 หลัก YoY จากอัตราการครอบครองเตียงที่น่าจะอยู่ที่ 80% เทียบกับ 62% ในไตรมาส 4/2567 และรายได้ปี 2569 น่าจะเติบโตดีขึ้นจากปี 2568 จากการเปิด รพ.ใหม่ 3 แห่ง ในปีหน้า
📌 รพ.คูน นำการเติบโต ขณะที่ EKH ขยายบริการที่หลากหลาย
เรามองว่า รพ.คูน มีแนวโน้มแข็งแกร่งที่สุด โดยน่าจะมีคนไข้ใช้บริการเต็มกำลังรองรับตั้งแต่ไตรมาส 4/2568 เป็นต้นไป โดย EKH มีแผนที่จะเพิ่มเตียงอีก 10 เตียงด้วยการสร้างอาคารใหม่ ขณะที่เรายังคงมีมุมมองที่เป็นกลางต่อการให้บริการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) และบริการรพ.แบบดั้งเดิม แม้ว่าห้องปฏิบัติการหัวใจและหลอดเลือดแห่งใหม่จะได้รับผลตอบรับที่ดีก็ตาม และด้วยความต้องการ IVF ที่ลดลงจากคนไข้ชาวจีน EKH จึงวางแผนที่จะเพิ่มบริการใหม่ เช่น การดูแลด้านสุขภาพ และความงาม
📌 กำลังรองรับบริการที่จะเพิ่มขึ้นใหม่ช่วยกระตุ้นยอดขาย แต่ความสามารถในการทำกำไรยังตามหลัง
การเยี่ยมชมอาคาร C ของเราแสดงให้เห็นว่าห้องผู้ป่วยใน (IPD) ใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยหนุนราคาค่าห้องที่สูงขึ้นได้ แม้ว่าอัตราการครองเตียงของ รพ.ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 60% ในปี 2568 ซึ่งน่าจะจำกัดการเติบโตของรายได้ในปี 2569 ขณะที่ รพ.คูน กทม. ยังคงรายงานความต้องการที่แข็งแกร่ง แต่เราเชื่อว่า รพ.คูน อ่าวนาง จะต้องใช้เวลาในการสร้างการรับรู้แบรนด์ ขณะที่ เรามองว่า รพ.บลูม มีศักยภาพจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง โดยมีการเตรียมบุคลากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของที่ต้องการแล้ว แต่ยังมีแนวโน้มที่จะขาดทุนในปีแรก
📌 ปรับเพิ่มประมาณการกำไร
เราปรับสมมติฐานกำไรปกติปี 2568 ขึ้น 11% เพื่อสะท้อนกำไรที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 3/2568 และปรับประมาณการกำไรปกติปี 2569-70 ขึ้นปีละ 5% เราคาดว่า รพ.ใหม่ทั้ง 3 แห่งจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2569 ซึ่งช้ากว่ากำหนดการของ EKH ในเดือน เม.ย.-พ.ค.2569
📌 แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท เรายังคงมุมมองระมัดระวังต่อแนวโน้มกำไรขาลงในปี 2569-70 หลังการเปิด รพ.ใหม่ 3 แห่ง แม้ว่า รพ.คูน ทำผลงานได้ดี แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้กำไรของกลุ่มเติบโต แม้ว่าไตรมาส 4/2568 น่าจะสะท้อนโมเมนตัมรายได้และกำไรที่ปรับตัวดีขึ้น แต่เรามองว่าจะไม่ต่อเนื่องไปในปี 2569 แม้ว่าเราจะปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2569 เป็น 4.30 บาท (จากเดิม 4.10 บาท) แต่ราคาหุ้นล่าสุดมี downside 16% ขณะที่ upside risk ประกอบด้วยการดำเนินการด้านการบริหารเงินทุน การควบรวมและซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้น และการฟื้นตัวของความต้องการ IVF จากคนไข้จีน

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
ภาษาไทย
English