KS Daily View 27 พ.ย. 2025

วิเคราะห์โดย KS Research Strategy

27 พ.ย. 2568

ย้อนกลับ

☀️KS Daily View 27 พ.ย. 2025>>>คาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,265 - 1,290 จุด จากภาพเชิงบวกของต่างประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องบนความคาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือน ธ.ค. และการฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยีในคืนที่ผ่านมาแนะนำ DELTA CENTEL

📊 แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.69%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.82%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.67% จากหุ้นเทคโนโลยีที่ฟื้นตัว และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมเพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการเข้าซื้อก่อนถึงวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้า

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,261.18 จุดลดลง -7.60 จุด (-0.60%) จากการปรับตัวลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มสื่อสาร, และกลุ่มพลังงาน ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,265 - 1,290 จุด จากภาพเชิงบวกของต่างประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องบนความคาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือน ธ.ค. และการฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยีในคืนที่ผ่านมา คาดว่าจะส่ง sentiment เชิงบวกกับกลุ่ม Electronics  ในขณะเดียวกัน สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวได้เปิดเผยว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนปลายปีเริ่มฟื้นตัว โดยยอดสะสมแตะกว่า 4 ล้านคน จากแรงหนุน ความสัมพันธ์ไทย–จีนที่ดีขึ้น, ความขัดแย้งจีน–ญี่ปุ่น, การกลับมาของ กรุ๊ปทัวร์และกรุ๊ป Incentive จะหนุนรายได้และกำไรของกลุ่มโรงแรมมีการฟื้นตัวใน 4Q25 ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นมีผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องอย่าง DELTA และ CENTEL

🚩ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1. บอร์ด รฟท. มีมติเห็นชอบปรับแบบและกรอบวงเงินโครงการรถไฟทางคู่มาบกะเบา–ชุมทางถนนจิระ สัญญา 2 (คลองขนานจิตร–ชุมทางถนนจิระ) ระยะทาง 69 กม. โดยปรับรูปแบบช่วงสถานีโคกกรวด–ชุมทางถนนจิระ ระยะ 16 กม. จากระดับดินเป็นทางยกระดับ เพื่อสอดคล้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ส่งผลให้กรอบวงเงินเพิ่มขึ้นเป็น 17,608 ล้านบาท จากเดิม 9,303 ล้านบาท เตรียมเสนอ ครม. ปี 2026 เปิดประมูลและได้ผู้รับจ้างภายในปี 2026 มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ CK และ STECON

• สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนปลายปีเริ่มฟื้นเด่นชัด โดยยอดสะสมแตะกว่า 4 ล้านคน จากแรงหนุน ความสัมพันธ์ไทย–จีนที่ดีขึ้น, ความขัดแย้งจีน–ญี่ปุ่น, การกลับมาของ กรุ๊ปทัวร์และกรุ๊ป Incentive แม้ว่ายังมีปัจจัยฉุดจากความกังวลด้านความปลอดภัย แต่ข่าวลบลดลงและการปราบปรามอาชญากรรมช่วยฟื้นภาพลักษณ์ไทย คาดทั้งปี 2025 ปิดที่ 4.5–5 ล้านคน ส่วนปี 2025 อาจแตะ 5–8 ล้านคน มองเป็นบวกกับ CENTEL ERW SHR AWC

• รัฐสภายุโรปลงมติให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการทำลายป่าออกไปอีกหนึ่งปี ทำให้บริษัทต่าง ๆ มีเวลาเพิ่มเติมในการปฏิบัติตามกฎใหม่ที่ห้ามการนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่า เช่น โกโก้ น้ำมันปาล์ม ถั่วเหลือง ยาง และเนื้อวัว โดยบริษัทใหญ่ต้องปฏิบัติตามตั้งแต่ 30 ธ.ค. 2026 และธุรกิจขนาดเล็กตั้งแต่ 30 มิ.ย. 2027

• ในขณะเดียวกัน กยท. เผยน้ำท่วมภาคใต้สร้างความเสียหายหนักต่อ สวนยางกว่า 1,058,000 ไร่ กระทบเกษตรกร 165,000 ราย และผลผลิตยางกว่า 2.54 ล้านกก.แห้ง มูลค่าความเสียหายราว 147 ล้านบาท โดยเร่งให้ความช่วยเหลือด่วน จัดงบกว่า 4.27 ล้านบาท ทำถุงยังชีพ เปิดโรงครัวสนามและพื้นที่พักพิง พร้อมเตรียมลงพื้นที่ประเมินสวนยางที่เสียหายหลังน้ำลด มองว่า supply ที่หายไปอาจส่งผลให้ราคายางปรับตัวขึ้น มองเป็นบวกกับ TEGH

• ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ คาดว่ายอดโอนอสังหาใน 4Q25 จะฟื้นตัวแรงตามมาตรการ Quick Big Win ดันยอดโอนแตะ 95,484 หน่วย (+13.1% QoQ) อย่างไรก็ตามทั้งปี 2025 คาดจะจบด้วยติดลบ 7.3% รวม 322,500 หน่วย และปี 2026 ตลาดจะเริ่ม “ตั้งลำ” ใกล้สมดุล ยอดโอนทรงตัวราว 320,200 หน่วย (-0.7%) และสินเชื่อใหม่เกือบคงเดิม โดยมีโอกาสฟื้นแรงขึ้นหากเศรษฐกิจ–ท่องเที่ยวกลับมาดีตามคาด มองเป็นบวกกับ AP SIRI SPALI

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

🎯 DELTA: ราคาพื้นฐาน 245.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ DELTA หลัง CAPEX ของกลุ่มไฮเปอร์สเกลสำหรับปี 2025 ถูกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 60–70% YoY จากการเปลี่ยนผ่านจาก AI training ไปสู่ AI inference และความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2026 คาดว่าจะเติบโต 24% YoY สะท้อนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเทคโนโลยี generative AI และโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูล หนุนการเติบโตของรายได้ของบริษัท โดย  DELTA ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 4Q25 ที่ 28% ได้แรงหนุนจากสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ AI และศูนย์ข้อมูลที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น และ คาดว่ารายได้ในปี 2026 จะเพิ่มขึ้น 15–20%

🎯 CENTEL: ราคาพื้นฐาน 42.09 บาท

เรามีมุมองเชิงบวกกับ CENTEL หลังรายงานกำไรจากผลประกอบการหลักใน 3Q25 ที่ 191 ลบ. เพิ่มขึ้น 84% QoQ และ 4% YoY ดีกว่าที่ KS คาดไว้ที่ 30 ลบ. และดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ 47% ด้วยปัจจัยหนุนหลักจากผลขาดทุนที่น้อยกว่าคาดจากธุรกิจโรงแรม แรงขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในเชิง QoQ มาจากผลขาดทุนที่ลดลงจากธุรกิจโรงแรม ขณะที่ปัจจัยหนุนการเติบโตเชิง YoY มาจากกำไรปกติที่สูงขึ้นจากธุรกิจอาหาร ในขณะเดียวกันความตึงเครียดทางการทูตที่ปะทุจากถ้อยแถลงของนายกฯ ญี่ปุ่นเกี่ยวกับสถานการณ์ไต้หวัน ส่งผลให้สายการบินจีนหลายแห่งเปิดให้เปลี่ยนหรือยกเลิกตั๋วไปญี่ปุ่นได้ฟรี ซึ่งมองว่าไทยอาจได้อานิสงค์การเปลี่ยนเส้นทางของนักท่องเที่ยวจีน

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

✅วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีความเชื่อมันของผู้บริโภคของยุโรป (EU CCI) เดือน พ.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่-14.0 จุด

✅วันศุกร์ ติดตามดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย (TH Industrial Production) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.60% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.02% YoY

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

📝 เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

⛳Follow us :

📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW