KS Daily View 20 พ.ย. 2025

วิเคราะห์โดย KS Research Strategy

20 พ.ย. 2568

ย้อนกลับ

☀️KS Daily View 20 พ.ย. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ได้เล็กน้อยในกรอบ 1,270 -1,290 จุด จากกลุ่ม Electronics คาดว่าจะได้ sentiment เชิงบวกของต่างประเทศหลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น แนะนำ DELTA และ AP

📊 แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.38%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.59%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.10% จากการปรับตัวขึ้นของหุ้น Nvidia หลังรายงานรายได้ 3Q25 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หนุนให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง AMD และ Alphabet ปรับตัวขึ้นเช่นกัน

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,272.17 จุดเพิ่มขึ้น +2.13 จุด (+0.17%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มขนส่ง, และกลุ่มธนาคาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ได้เล็กน้อยในกรอบ 1,270 -1,290 จุด จากกลุ่ม Electronics โดยเฉพาะ DELTA คาดว่าจะได้ sentiment เชิงบวกในต่างประเทศหลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น หลังมีการรายงานรายได้ 3Q25 ของ Nvidia ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้จากความต้องการ chips ใน Data center  ในขณะเดียวกันสามสมาคมอสังหาริมทรัพย์เตรียมเข้าพบกระทรวงการคลังหารือมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เช่น การลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ และการขยายบทบาท บสย. เพื่อค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น อาจหนุนให้กลุ่มอสังหาปรับตัวขึ้น ประกอบกับมี dividend yield ปี 2026 ที่น่าดึงดูดราว 7.9%  ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นมีผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องไปยัง 4Q25 อย่าง DELTA และ AP

🚩ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1. รัฐบาลเห็นชอบกรอบงบประมาณปี 2027 วงเงินรายจ่าย 3.788 ล้านล้านบาท รายได้ 3 ล้านล้านบาท ขาดดุล 7.88 แสนล้านบาท (3.9% ต่อจีดีพี) ลดลงจากปีก่อนและตั้งเป้าลดต่อเนื่องให้เหลือไม่เกิน 3% ใน 3–4 ปี นายกรัฐมนตรีอนุทินเร่งให้กระบวนการจัดทำงบเสร็จในเดือน ม.ค. 2026 ก่อนยุบสภา เพื่อไม่ให้ปฏิทินงบประมาณล่าช้าแบบปี 2023 โดยตั้งเป้าให้งบปี 2027 ทันใช้ 1 ต.ค. 2026 หรือช้าสุดไม่เกิน 15–30 วัน และเตรียมโครงการ “คนละครึ่งพลัสพลัส เฟส 2” คาดเริ่มเดือน ม.ค. 2026 โดยจะพิจารณาวงเงินจากงบกลางที่เหลือราว 70,000 ล้านบาท

• หลังความตึงเครียดทางการทูตจีนและญี่ปุ่น มีรายงานว่า ชาวจีนจำนวนมากยกเลิกแผนเที่ยวญี่ปุ่น สายการบินจีนหลายแห่งคืนเงิน–เลื่อนเที่ยวบินฟรี ขณะที่หลายบริษัทท่องเที่ยวรายงานยอดยกเลิกทัวร์พุ่ง ส่งผลให้จีนหันไปเที่ยวเกาหลีใต้ ไทย ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนามแทน ด้านนักศึกษาจีนจำนวนหนึ่งเปลี่ยนจุดหมายไปฮ่องกง–มาเก๊าแทนญี่ปุ่น มองเป็นกับ CENTEL AWC SHR ERW

• จีนแจ้งญี่ปุ่นว่าจะ “ระงับการนำเข้าอาหารทะเลอีกครั้ง” ท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตที่ปะทุขึ้นใหม่ เดิมทีจีนเพิ่งยกเลิกมาตรการแบนอาหารทะเลบางส่วนและเริ่มนำเข้าจากญี่ปุ่นแบบค่อยเป็นค่อยไปในปี 2025 หลังห้ามนำเข้าตั้งแต่ปี 2023 จากกรณีปล่อยน้ำจากฟุกุชิมะ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ล่าสุดทำให้ความสัมพันธ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับ TU

• สามสมาคมอสังหาริมทรัพย์เตรียมเข้าพบกระทรวงการคลังวันที่ 21 พ.ย. 2025 เพื่อหารือมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ตามข้อเสนอเดิม 6 ข้อที่เคยยื่นต่อนายกฯ อนุทิน และเพิ่มข้อเสนอใหม่อีก 1 ข้อ รวมเป็น “6+1 มาตรการ” โดยเบื้องต้นประกอบด้วยข้อสำคัญ เช่น การลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยทุกระดับราคาในวงเงินไม่เกิน 7 ล้านบาทถึง 30 มิ.ย. 2026 และการขยายบทบาท บสย. เพื่อค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยบางส่วน (เช่น 20%) เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และกระตุ้นการซื้อขายในภาคอสังหาริมทรัพย์ มองเป็นบวกกับกลุ่มอสังหาอย่าง AP SIRI SUPALI

• ราคาน้ำมันโลกลดลงกว่า 2% หลังมีรายงานว่าสหรัฐกำลังกดดันให้ยูเครนยอมรับกรอบข้อตกลงยุติสงครามกับรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการยกดินแดนและอาวุธบางส่วน ขณะที่ค่าการกลั่นในสหรัฐยังคงมีความเสี่ยงขาขึ้น หลังโรงกลั่นในแคลิฟอร์เนียสองแห่งเตรียมปิดตัว ทำให้ตลาดเสี่ยงขาดแคลนถึงราว 280,000 บาร์เรลต่อวัน

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

🎯 DELTA: ราคาพื้นฐาน 245.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ DELTA หลัง CAPEX ของกลุ่มไฮเปอร์สเกลสำหรับปี 2025 ถูกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 60–70% YoY จากการเปลี่ยนผ่านจาก AI training ไปสู่ AI inference และความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2026 คาดว่าจะเติบโต 24% YoY สะท้อนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเทคโนโลยี generative AI และโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูล หนุนการเติบโตของรายได้ของบริษัท โดย  DELTA ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 4Q25 ที่ 28% ได้แรงหนุนจากสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ AI และศูนย์ข้อมูลที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น และ คาดว่ารายได้ในปี 2026 จะเพิ่มขึ้น 15–20%

🎯 AP : ราคาพื้นฐาน 9.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ AP จากแนวโน้มของกำไรที่ฟื้นตัวต่อเนื่องใน 4Q25 ที่ จะอยู่ในระดับสูงสุดของปี โดยจะมีโครงการใหม่ 22 โครงการ มูลค่า 2.4 หมื่นลบ. เปิดตัวใน 4Q25 และจะมีคอนโดใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมโอนฯ เพิ่มอีกหนึ่งโครงการ คือ แอสปาย วิภา-วิคตอรี่ ที่จะช่วยสนับสนุนกำไร และเก็งมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาเพิ่มเติมหลังสามสมาคมอสังหาริมทรัพย์เตรียมเข้าพบกระทรวงการคลัง อีกทั้งคาดว่าบริษัทจะให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 2025 และ  2026 ที่ 7.0% และ 7.6% ตามลำดับ

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

✅วันพฤหัสบดี ติดตาม Loan prime rate ของธนาคารกลางจีนระยะเวลา 1 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.0% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า และ Loan prime rate อายุ 5 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า

✅วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +2.9% YoY และ เงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานตลาดคาดการณ์ที่ +3.1% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +3.0% YoY ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโซนยุโรป (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.2 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 50.0 จุด ต่อด้วยการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐ (S&P Global US Manufacturing PMI Flash) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 52.0 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 52.5 จุด

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

📝 เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

⛳Follow us :

📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW