KS Daily View 19 พ.ค. 2025

KS Daily View 19 พ.ค. 2025

วิเคราะห์โดย KS Research Strategy
19 พ.ย. 2568
ย้อนกลับ

KS Daily View 19.11.2025 >>> ครม. ตั้งเป้าลดขาดดุลไม่เกิน 3% และควบคุมหนี้สาธารณะไม่ให้เกิน 70% ของ GDP ครม. ตั้งเป้าลดการขาดดุลและควบคุมหนี้สาธารณะไม่ให้เกิน 70% ของ GDP คาด SET วันนี้ กรอบ 1,265-1,275 จุด แนะนำ CENTEL และ TFG

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนี S&P500 ลดลง 0.83%, Nasdaq Composite ลดลง 1.21%, และ Dow Jones ลดลง 1.07% จากความกังวลด้านมูลค่าหุ้นที่ตึงตัวของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และการคาดการณ์ผลประกอบการที่น่าผิดหวังโฮมดีโปต์กดดันตลาด

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,270.04 จุดลดลง -10.03 จุด (-0.78%) จากการปรับตัวลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มพลังงาน, และกลุ่มค้าปลีก ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway down ได้เล็กน้อยในกรอบ 1,265-1,275 จุด หลังครม. ตั้งเป้าลดการขาดดุลเหลือไม่เกิน 3% ของ GDP ภายในปี 2029 และควบคุมหนี้สาธารณะไม่ให้เกิน 70% ของ GDP มองว่ามาตรการการคลังที่ใช้กรอบเข้มงวดขึ้นอาจส่งผลให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต อาจชะลอตัวลงที่อาจส่งแรงกดดันระยะสั้นต่อตลาดหุ้น ในขณะเดียวกันตลาดในต่างประเทศยังคงกังวลต่อเนื่องในประเด็นของ มูลค่าหุ้นที่ตึงตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่อาจส่ง sentiment เชิงลบกับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นมีผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องไปยัง 4Q25 อย่าง CENTEL ที่อาจได้อานิสงค์การเปลี่ยนเส้นทางของนักท่องเที่ยวจีน และ TFG จากแนวโน้มของรายได้และกำไรใน 4Q25 จะเร่งตัวขึ้น จากไตรมาสก่อนหน้า หลังราคาปศุสัตว์ที่ปรับตัวกลับสู่ภาวะปกติ และ ธุรกิจค้าปลีกที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน

1.กรมทางหลวงเตรียมเสนอครม.อนุมัติสร้างมอเตอร์เวย์ M8 ระยะที่ 1 ช่วงนครปฐม–ปากท่อ ระยะทาง 61 กม. วงเงินกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท โดยรองนายกฯ และรมว.คมนาคมลงนามเห็นชอบแล้ว และ คาดเสนอครม.ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ พร้อมแบ่งก่อสร้างเป็น 2 ระยะเริ่มปี 2027–2028 และเปิดใช้เต็มรูปแบบปี 2033 รวมถึงเตรียมเปิดประมูล O&M มอเตอร์เวย์ M82 ขณะเดียวกันยังวางแผนพัฒนามอเตอร์เวย์เส้นใหม่ M9 ด้านเหนือ วงเงินราว 4,000 ล้านบาท เพื่อเชื่อมโครงข่ายให้สมบูรณ์ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ STECON และ CK

2.ครม.เห็นชอบการปรับแผนการคลังระยะปานกลางปี 2026–2030 เพื่อเสริมเสถียรภาพการคลัง โดย ตั้งเป้าลดการขาดดุลเหลือไม่เกิน 3% ของ GDP ภายในปี 2029 และควบคุมหนี้สาธารณะไม่ให้เกิน 70% ของ GDP และเร่งเพิ่มรายได้รัฐเป็นไม่ต่ำกว่า 15.1% ของ GDP ขณะลดรายจ่ายลงสู่ระดับราว 18% พร้อมเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐานและ PPP เพื่อไม่เพิ่มภาระหนี้สาธารณะ มองว่ามาตรการการคลังที่ใช้กรอบเข้มงวดขึ้นอาจส่งผลให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต อาจชะลอตัวลง

3.ตั้งแต่ 1 ม.ค.–16 พ.ย. 2025 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28.28 ล้านคน ลดลง 7.18% YoY มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นเทียบกับช่วง 1 ม.ค.–30 ก.ย. 2025 และ 1 ม.ค.–31 ต.ค. 2025 ที่มีตัวเลขนักท่องเที่ยว ปรับตัวลดลง -7.56% YoY และ -7.23% YoY ซึ่งในสัปดาห์ 10–16 พ.ย. พบว่านักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ มาเลเซียและเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นจากช่วงไฮซีซันและวันหยุดยาว ประกอบกับมาตรการอำนวยความสะดวก เช่น ยกเว้น ตม.6 และการเพิ่มเที่ยวบินช่วยหนุนการเดินทาง ททท. คาดนักท่องเที่ยวปี 2025 ที่ 33.4 ล้านคน มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL ERW AWC SHR

4.ททท.เตรียมเดินหน้า 4 กิจกรรมกระตุ้นตลาดจีน ทั้งแคมเปญ “จงไท่อี้เจียซิน” โปรโมตวัฒนธรรมไทย-จีน โปรโมชันตั๋วเครื่องบิน-ที่พัก แพ็กเกจรับตรุษจีน 2026 และเส้นทางเชื่อมโยงชุมชนไทย-จีนร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และ คาดยอดจองจะเร่งตัวในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ททท.ประเมินว่าช่วงปลายปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยเพิ่มเป็นวันละ 20,000–25,000 คน ดันยอดรวมแตะ 5 ล้านคนในปี 2025 มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว

5.บริษัทพลังงานหลายรายในสหรัฐ กำลังแข่งขันกันสร้างท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ หลังแคลิฟอร์เนียเตรียมปิดโรงกลั่นสองแห่ง ซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันในภูมิภาคพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากการผลิตในพื้นที่มีจำกัดและเชื่อมต่อกับแหล่งอื่นน้อย มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP SPRC BCP BSRC

Daily pick

CENTEL: ราคาพื้นฐาน 42.09 บาท
เรามีมุมองเชิงบวกกับ CENTEL หลังรายงานกำไรจากผลประกอบการหลักใน 3Q25 ที่ 191 ลบ. เพิ่มขึ้น 84% QoQ และ 4% YoY ดีกว่าที่ KS คาดไว้ที่ 30 ลบ. และดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ 47% ด้วยปัจจัยหนุนหลักจากผลขาดทุนที่น้อยกว่าคาดจากธุรกิจโรงแรม แรงขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในเชิง QoQ มาจากผลขาดทุนที่ลดลงจากธุรกิจโรงแรม ขณะที่ปัจจัยหนุนการเติบโตเชิง YoY มาจากกำไรปกติที่สูงขึ้นจากธุรกิจอาหาร ในขณะเดียวกันความตึงเครียดทางการทูตที่ปะทุจากถ้อยแถลงของนายกฯ ญี่ปุ่นเกี่ยวกับสถานการณ์ไต้หวัน ส่งผลให้สายการบินจีนหลายแห่งเปิดให้เปลี่ยนหรือยกเลิกตั๋วไปญี่ปุ่นได้ฟรี ซึ่งมองว่าไทยอาจได้อานิสงค์การเปลี่ยนเส้นทางของนักท่องเที่ยวจีน

TFG: ราคาพื้นฐาน 6.70 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TFG หลังราคาสุกรมีการฟื้นตัวขึ้น 33% จากไตรมาสที่ผ่านมาหลังเทศกาลกินเจ ประกอบกับ supply ที่เริ่มถูกควบคุได้มากขึ้น ทั้งนี้ธุรกิจค้าปลีกที่เป็นเครื่องยนต์การเติบโตหลัก ผู้บริหารคาดว่าการเติบโตของยอดค้าปลีกจะอยู่ที่ 30% ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายจำนวนสาขาที่ 850 สาขา ซึ่งในระยะสั้น SSSG ของธุรกิจค้าปลีกคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเชิง QoQ จากเดิมที่ 8% โดยได้รับแรงหนุนจากราคาปศุสัตว์ที่ปรับตัวกลับสู่ภาวะปกติและปริมาณการผลิตที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ TFG ซึ่งน่าจะช่วยลดการพึ่งพาปศุสัตว์และช่วยหนุนอัตรากำไรของธุรกิจค้าปลีกในอนาคต

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันพุธ ติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งสุดท้าย (EU CPI) เดือน ต.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +2.1% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้าและตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (EU Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ +2.4% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วยรายงานบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (FOMC minutes)

วันพฤหัสบดี ติดตาม Loan prime rate ของธนาคารกลางจีนระยะเวลา 1 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.0% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า และ Loan prime rate อายุ 5 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +2.9% YoY และ เงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานตลาดคาดการณ์ที่ +3.1% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +3.0% YoY ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโซนยุโรป (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.2 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 50.0 จุด ต่อด้วยการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐ (S&P Global US Manufacturing PMI Flash) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 52.0 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 52.5 จุด

Dailyview_2025_1040x1040.jpg

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
ดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมผ่านแอป KS TRADE+ โหลดเลย >> https://ksecurities.co/KSTradePlus

Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW

ค้นหา