KS: BPP การปรับโครงสร้างภายในกลุ่ม

วิเคราะห์โดย KS Research Fundamental

4 พ.ย. 2568

ย้อนกลับ

KS: BPP การปรับโครงสร้างภายในกลุ่ม

มีอะไรใหม่? เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2568 BANPU แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบอร์ดบริหารของบริษัทฯ ได้อนุมัติแผนการลงทุนและการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการควบรวมกิจการกับ BPP ที่กำลังจะเกิดขึ้น การประชุมบอร์ดฯ ของบริษัทจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2568 และจะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 ม.ค.2569 แผนดังกล่าวประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
การขายหุ้น 25% ในบริษัทร่วมทุน (JV) โรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ให้กับ BKV
การควบรวมกิจการระหว่าง BANPU และ BPP

แผนปรับโครงสร้างองค์กร ส่วนแรกของแผนคือ BKV Corporation ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ BANPU ในสหรัฐฯ (ปัจจุบัน BANPU ถือหุ้น BKV อยู่ 71%) จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 25% ใน BKV-BPP Power LLC ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ Temple 1-2 ในมลรัฐเท็กซัส จาก Banpu Power US Corporation เป็นมูลค่าประมาณ 376 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ปรับด้วย 25% ของหนี้สินสุทธิ (582 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ เดือนกันยายน 2568) การชำระเงินครั้งสุดท้ายจะอยู่ที่ 231 ล้านดอลล่าร์ฯ หรือประมาณ 7.6 พันลบ. โดยจะแบ่งชำระเป็นเงินสด 50% และหุ้นเพิ่มทุน BKV อีก 50% ในราคาหุ้นละ 21.66 ดอลล่าร์ฯ เมื่อการดำเนินการเสร็จสิ้นในไตรมาส 1/2569 BKV จะถือหุ้น BKV-BPP จำนวน 75% และจะนำผลการดำเนินงานมารวมไว้ในงบการเงินของ BANPU ในทางกลับกัน สัดส่วนการถือหุ้นของ BPP ใน BKV-BPP จะลดลงจาก 50% เหลือ 25% แต่ BPP จะถือ 5.6% ใน BKV เป็นการตอบแทน และจะได้รับเงินสดก้อนหนึ่ง

การควบรวมกิจการ ส่วนที่สองของแผน ได้แก่ การควบรวมกิจการระหว่าง BANPU และ BPP ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจภายในกลุ่มบริษัท โดยในช่วงเวลาสั้นๆ BANPU จะเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายแล้วจำนวน 21.3% จากผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นรายบุคคล ระหว่างวันที่ 1-23 ธ.ค.2568 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 13 บาท นักลงทุนสามารถเลือกที่จะตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอซื้อหุ้นได้ หากข้อเสนอซื้อหุ้น BPP ที่เหลือจะถูกแปลงเป็นหุ้นบริษัทใหม่ (NewCo) ภายในไตรมาส 3/2569 รวมถึงการจดทะเบียนหลักทรัพย์ใหม่ภายใต้ชื่อ BANPU

มุมมองของเรา เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับโครงสร้างครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ถือหุ้น BPP อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวขึ้นกว่า 20% หลังจากการประกาศดังกล่าว เราเชื่อว่า upside จะมีอยู่อย่างจำกัด หากอิงจากการคำนวณของเรา การขายหุ้น BKV-BPP จะทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 1.4-1.5 บาท/หุ้น ซึ่งยังคงต่ำกว่าราคาเสนอขายของ BANPU อยู่ 10% ดังนั้นเราจึงแนะนำให้นักลงทุนตอบรับข้อเสนอนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีหุ้น BPP เป็นการลงทุนแบบป้องกันความเสี่ยงและให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง

มุมมอง KS

แนะนำ “ถือ” และ TP ที่ 10.20 บาท เราปรับลดคำแนะนำสำหรับ BPP ลงเป็น “ถือ” เนื่องจากเรามองว่ามี upside ที่จำกัดต่อราคาเป้าหมายของเรา แม้ว่าจะมีแนวโน้มขาขึ้นจากธุรกรรมนี้ก็ตาม เราแนะนำให้นักลงทุนขาย BPP ในราคาล่าสุด หรือรอข้อเสนอซื้อทั่วไปในเดือน ธ.ค.