KS : แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยต่อ และตามค่าเงินเข้มขึ้น

KS : แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยต่อ และตามค่าเงินเข้มขึ้น

Analysis by KS Research Strategy
Dec 18, 2025
Back

KS : แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยต่อ และตามค่าเงินเข้มขึ้น

📍กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

✅ลง 25 bps จาก 1.50% เป็น 1.25% เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยคณะกรรมการมองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะเติบโตได้ต่ำกว่าศักยภาพ จากการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ช้า ท่ามกลางผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และอุทกภัย ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ การปล่อยสินเชื่อในระบบหดตัว การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ยากขึ้น และคุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลง ภายใต้สภาวะดังกล่าว กนง. จึงมองว่าการลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมจึงมีความเหมาะสมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

📍ปรับลดคาดการณ์ GDP และอัตราเงินเฟ้อ

✅ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดเศรษฐกิจไทยขยายตัวในระดับต่ำที่ 2.2% ในปี 2568 และ 1.5% ในปี 2569 ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลดประมาณการลงเล็กน้อยเทียบจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้าสำหรับตัวเลขปี 2569 โดยการปรับลดลงครั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากการปรับลดคาดการลงทุนภาครัฐที่มองว่าจะต่ำลง เพื่อซึ่งสะท้อนความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นราว 2–3 เดือน ในกระบวนการงบประมาณปี 2570 นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย โดยมีการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.1% ในปี 2568 และ 0.3% ในปี 2569 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่คาดการณ์ว่าจะต่ำลง

📍ให้ความสำคัญมากขึ้นกับประสิทธิผลของนโยบายและค่าเงินบาท

✅ในระยะข้างหน้า ธปท. เชื่อว่าการดำเนินนโยบายการเงินจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิผลมากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำแล้วเมื่อเทียบกับระดับดอกเบี้ยนโยบายในอดีตและอีกทั้งปัจจุบันดอกเบี้ยนโยบายของไทยถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ต่ำที่สุดในโลก นอกจากนี้ ธปท. ให้ความสำคัญมากขึ้นกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท โดยกำลังพิจารณาให้มีการรายงานธุรกรรมที่ละเอียดมากขึ้นสำหรับบริษัทค้าทองคำรายใหญ่เนื่องจากธุรกรรมมีผลกระทบมากกับตลาด และอาจมีการยกระดับการเฝ้าติดตาม รวมถึงมาตรการอื่นๆ สำหรับการกำกับดูแลการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ

📍นโยบายผ่อนคลายทางการเงินช่วยพยุงบรรยากาศการลงทุนระยะสั้น

✅เราเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดจาก ธปท. น่าจะสนับสนุนบรรยากาศการลงทุนในตลาดได้ในระยะสั้น โดยคาดจะช่วยหนุนดัชนี SET ให้ซื้อขายในกรอบ 1,250–1,280 จุด ได้ไปจนถึงสิ้นปี แม้ว่าจะเผชิญความเสี่ยงเชิงลบ อีกทั้งมองมีเม็ดเงินไหลเข้าจากการซื้อกองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษีปลายปีช่วยพยุงตลาด ทั้งนี้หากพิจารณารายกลุ่มธุรกิจ เราประเมินกลุ่มการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะบริษัทที่มีภาระหนี้สูงจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่ม ICT อาจได้รับแรงหนุนเชิงบวกเช่นกันจากเม็ดเงินที่อาจหมุนไปยังหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงเพื่อแสวงหาผลตอบแทนท่ามกลางสภาวะอัตราดอกเบี้ย หุ้นเด่นที่เราแนะนำ ได้แก่ SAWAD, TIDLOR, AP, KKP, KTB, SCB, GPSC และ BGRIM

📍เราคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีก 25bps ในปี 2569

✅มองไปข้างหน้า เราคาดว่า ธปท. อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพิ่มเติมอีก 25 bps ในปี 2569 สู่ระดับ 1.00% เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี สำหรับด้านค่าเงินบาทอาจมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ แม้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง โดยเรามองค่าเงินบาท USDTHB มีแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 31.4 บาท และ 31.0 บาท จากภาวะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าตามภาพตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ที่รายงานออกมาอ่อนแอต่อเนื่อง ทั้งนี้เรามองจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับค่าเงินบาทที่อาจพลิกเทรนด์มาอ่อนค่าได้คือช่วงการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งสุดท้ายของวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินรอบนี้ หรือหาก ธปท. ออกมาตรการกำกับดูแลที่เข้มชัดอาจเห็นเม็ดเงินไหลออกแรงในระยะสั้นได้

กนง-1040x1300.jpg

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
ดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมผ่านแอป KS TRADE+ โหลดเลย >> https://ksecurities.co/KSTradePlus

Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #หุ้น #หุ้นไทย #ข่าวหุ้น #ลงทุน

Search

Recommended searches