Industrial Estate Sector กิจกรรมเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่ง

Analysis by KS Research Strategy

Aug 11, 2025

Back

Industrial Estate Sector กิจกรรมเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่ง

พัฒนาการต่างๆของนิคมฯ สำคัญ 2 แห่งยังคงดำเนินต่อไป เราได้จัดทริปไปนิคมฯ หลัก 2 แห่งของไทยเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มให้กับลูกค้าสถาบันของเรา แม้ว่าจะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่ไม่แน่นอนของภาษีศุลกากรศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ แต่เราพบว่ากิจกรรมการพัฒนายังคงดำเนินต่อไป โดยโรงงานขนาดใหญ่ 2 แห่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่นิคมฯ อารยะ และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานกำลังดำเนินการอยู่ที่นิคมฯ อมตะซิตี้ ชลบุรี โรงงานส่วนใหญ่ในนิคมฯ ยังคงดำเนินงานตามปกติ

นิคมฯ อารยะ – มีความต้องการสูงสำหรับนิคมฯ ใหม่แห่งนี้ เนื่องจากเป็นโครงการใหม่และทำเลที่ตั้งอยู่ที่ ถ.บางนา-ตราด กม.32 นักลงทุนจึงมีความสนใจมาก หลังการพัฒนาได้ไม่ถึง 1 ปี ก็สามารถขายที่ดินแปลงใหญ่ได้ 3 แปลง รวม 433 ไร่ ให้กับบริษัทข้ามชาติ 3 แห่ง (Infineon 125 ไร่ Mr.DIY 158 ไร่ และ Delta 150 ไร่) โดย คุณกมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการของนิคมฯ อารยะ เปิดเผยระหว่างการเยี่ยมชมโครงการว่าโครงการนิคมฯ ในเฟสแรก (1,400 ไร่) คาดว่าจะถูกขายหมดภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

นิคมฯ อมตะ ซิตี้ ชลบุรี –ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในฐานะนิคมฯ ที่ใหญ่ที่สุดของไทย (27,000 ไร่) การพัฒนายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กำลังเพิ่มขึ้น ถนนกำลังได้รับการปรับปรุง และมีการเตรียมความพร้อมในการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงในอนาคต คุณโอซามู ซูโด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ AMATA ระบุว่านิคมฯแห่งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนรายใหญ่ โดยโครงสร้างพื้นฐาน ทำเลที่ตั้งบน ถ.บางนา-ตราด กม.57 และการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมยังคงเป็นจุดดึงดูดหลัก ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 AMATA ขายที่ดินในนิคมฯ นี้ไปแล้ว 61 ไร่

อัตราภาษีที่ถูกปรับให้เป็นปกติช่วยบรรเทาความกังวล นักลงทุนที่มีศักยภาพส่วนใหญ่ใช้แนวทาง “wait-and-see” มาตั้งแต่เดือน เม.ย. หลังมีการกำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ในอัตรา 36% ต่อไทย ก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับ ROI อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราภาษีสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 19% ซึ่งเท่ากับคู่แข่งสำคัญ (19% สำหรับอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และ 20% สำหรับเวียดนาม) ARAYA และ AMATA เชื่อว่าสถานการณ์อุตสาหกรรมได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ช่วยลดแรงกดดันต่อนิคมฯ ของไทย

ทั้งปีศาจและนางฟ้าอยู่ในรายละเอียด อัตราภาษีใหม่ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. เป็นต้นไป ซึ่งรวมถึงเงื่อนไขใหม่ๆ เช่น ภาษี 0% สำหรับสินค้ากว่า 10,000 รายการของสหรัฐที่จะส่งมาไทย ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการลงทุนในบางอุตสาหกรรมยังคงไม่แน่นอน นอกจากนี้ จากกฎระเบียบการเปลี่ยนถ่ายสินค้ายังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเกณฑ์ RVC (สัดส่วนมูลค่าเพิ่มในภูมิภาค) ความเสี่ยงของการเก็บภาษีเพิ่ม 40% ยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม AMATA มองว่าเป็นโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมที่เป็นธุรกิจส่วนเพิ่มในประเทศ ทั้งนี้ข้อเสนอภาษีธุรกิจดิจิทัลของเราต่อสหรัฐฯ อาจช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุนในไทย

Valuation and Recommendation

เราคงมุมมองที่เป็นบวกต่อกลุ่มนิคมฯ ด้วยความกังวลที่ลดลงสำหรับความสามารถในการแข่งขันของไทยและเวียดนามหลังการปผ่อนคลายภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงถูกมองว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เราคาดว่ากระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่ไทยและเวียดนาม (ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของผู้พัฒนานิคมฯ ไทย) จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผู้เล่นทุกรายจะได้รับประโยชน์
เราชอบ AMATA > WHA > FPT โดยพิจารณาจากการประเมินมูลค่าหุ้นและแนวโน้มผลประกอบการ