KS Daily View 28 พ.ย. 2025

Analysis by KS Research Strategy

Nov 28, 2025

Back

☀️KS Daily View 28 พ.ย. 2025>>>คาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,250 - 1,265 จุด จากปัจจัยเชิงบวกของต่างประเทศ หลังมีรายงานว่า OPEC+ มีแนวโน้มจะคงระดับการผลิตน้ำมันไว้ตามเดิมในการประชุมวันอาทิตย์นี้ แนะนำ PTTEP และ KCE

📊 แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หยุดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุด thanksgiving

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,252.71 จุดลดลง -8.74 จุด (-0.67%) จากการปรับตัวลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มสื่อสาร, และกลุ่มธนาคาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,250 - 1,265 จุด จากปัจจัยเชิงบวกของต่างประเทศ หลังมีรายงานว่า OPEC+ มีแนวโน้มจะคงระดับการผลิตน้ำมันไว้ตามเดิมในการประชุมวันอาทิตย์นี้ ประกอบกับ โรงกลั่นอิสระของจีนเริ่มได้รับโควตานำเข้าน้ำมันดิบชุดแรกสำหรับปี 2026 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าช่วยลดภาวะน้ำมันล้นตลาด อาจหนุนให้กลุ่มพลังงานมีการปรับตัวขึ้น ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางเกาหลีได้เปิดเผยว่าวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกมีแนวโน้มยืดยาวไปจนถึงปลายปี 2026 ที่อาจส่ง sentiment เชิงบวกกับกลุ่ม Electronics ของไทย ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง PTTEP และ KCE

🚩ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1. โรงกลั่นอิสระของจีนเริ่มได้รับโควตานำเข้าน้ำมันดิบชุดแรกสำหรับปี 2026 คาดว่าจะช่วยลดภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยกลุ่มโรงกลั่นที่ได้รับโควตา ได้แก่ Hengli Petrochemical 2 ล้านตัน, Rongsheng 750,000 ตัน, Shenghong 120,000 ตัน และ Hongrun 530,000 ตัน รวมแล้วออกโควตาไปแล้วราว 8 ล้านตัน มากกว่าปีก่อนที่ 6.04 ล้านตัน ซึ่งการจัดสรรโควตาใหม่คาดว่าจะดันราคาน้ำมันอิหร่าน เวเนซุเอลา และรัสเซีย มองเป็นบวกกับ PTTEP

• OPEC+ มีแนวโน้มจะคงระดับการผลิตน้ำมันไว้ตามเดิมในการประชุมวันอาทิตย์นี้ และเตรียมเห็นชอบกลไกใหม่สำหรับประเมิน “กำลังการผลิตสูงสุด” ของแต่ละประเทศสมาชิก ซึ่งจะเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับกำหนดโควตาการผลิตปี 2027 โดยแหล่งข่าวระบุว่าประเทศสมาชิก 8 ชาติที่เริ่มทยอยเพิ่มการผลิตตั้งแต่ปี 2025 จะยังคงนโยบาย “หยุดการเพิ่มผลิต” ในไตรมาสแรกปี 2026 เช่นเดิม มองเป็นบวกเล็กน้อยกับ PTTEP และ กลุ่มโรงกลั่น

• จีนเตือนญี่ปุ่นอย่างเข้ม หลังโตเกียวเผยแผนติดตั้งขีปนาวุธพื้นสู่อากาศพิสัยกลางบนเกาะโยนากูนิซึ่งอยู่ห่างไต้หวันเพียง 110 กม. โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมจีนย้ำว่า “ไต้หวันคือเรื่องภายในของจีน” และหากญี่ปุ่นล้ำเส้นแม้ครึ่งก้าว “จะต้องเผชิญผลลัพธ์รุนแรง” พร้อมโจมตีญี่ปุ่นว่าล้มเหลวในการทบทวนประวัติการรุกรานในอดีตและยังคิดแทรกแซงช่องแคบไต้หวัน มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกต่อ CENTEL ERW SHR AWC จากการเปลี่ยนเส้นทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน

• BOK ระบุว่า วัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกมีแนวโน้มยืดยาวไปจนถึงปลายปี 2026 เพราะอุปสงค์เทคโนโลยี AI ยังพุ่งแรง โดยปกติวัฏจักรบูมของชิปจะอยู่ราว 2 ปี ขณะเดียวกันอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่งช่วยหนุนเศรษฐกิจเกาหลีใต้ฟื้นตัว ทำให้ BOK ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2025 เป็น 1% (จาก 0.9%) และปี 2026 เป็น 1.8% (จาก 1.6%)เป็นจิตวิทยาเชิงบวกกับกลุ่ม Electronics อย่าง DELTA KCE HANA

• ราคาหุ้นอสังหาฯ จีนร่วงแรงหลัง China Vanke ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ประกาศแผน ขอเลื่อนชำระหนี้หุ้นกู้ในประเทศมูลค่า 2 พันล้านหยวน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าบริษัทอาจเป็น "โดมิโนรายใหญ่ถัดไป" ของวิกฤติอสังหาริมทรัพย์จีน ต่อจาก Evergrande และ Country Garden ส่งผลให้หุ้น Vanke ดิ่งกว่า 6% และฉุดราคาหุ้นของผู้พัฒนาอสังหาฯ อื่น ๆ ทั้งในจีนและฮ่องกงร่วง 0.5–5% มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับหุ้น China link อย่าง PTTGC SCC IRPC SCGP

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

🎯 PTTEP: ราคาพื้นฐาน 127.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ PTTEP จากระดับมูลค่าที่น่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายที่ราว -1SD (2026 PBV 0.8x, PE 7.x) และให้ Dividend yield กว่า 7% หรือราว 8.5 บาท/หุ้น โดยยังมีโอกาสรักษาจ่ายปันผลใกล้ระดับปี 2024 ที่ 9.5 บาท/หุ้น จากฐานะการเงินแข็งแกร่ง (IBD/E เพียง 0.24x ใน 2Q25) และกระแสเงินสดอิสระที่มั่นคง ในเชิงกลยุทธ์ เราคาด PTTEP อาจ Outperform ใน 4Q25 จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่มักปรับขึ้น 14–20% ภายใน 3–12 เดือนหลังเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย อีกทั้ง IEA, OPEC และ EIA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2025–2026 ขณะที่สต๊อก middle distillate ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และฤดูหนาวจะหนุน GRM เพิ่มแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน โดย PTTEP มีสัดส่วนยอดขายจากน้ำมันดิบราว 30% ซึ่งจะได้ประโยชน์โดยตรง

🎯 KCE : ราคาพื้นฐาน 27.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KCE จาก แนวโน้มฟื้นตัวในปีหน้า โดยแรงหนุนหลักมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มมีสัญญาณทรงตัวมากขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคยุโรปที่ดีขึ้น ตามยอดจดทะเบียนรถใหม่ในยุโรปที่กลับมาเติบโตใน 3Q25 อีกทั้งดัชนี EU Manufacturing PMI กลับเข้าสู่โซนขยายตัวที่ระดับ 50.7 ในเดือนสิงหาคม 2025 ซึ่งมีความสัมพันธ์สูงกับการส่งออก PCB ของไทย จึงช่วยสนับสนุนภาพการกลับมาฟื้นตัวของรายได้ KCE ในระยะถัดไป ในด้าน Margin หาก demand กลับมาตามคาด GPM มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 20% จากการใช้กำลังการผลิตของโรงงาน LKB ที่ดีขึ้นและการทำ Cost-saving program ที่เริ่มเห็นผลชัดตั้งแต่ปี 2024 รวมถึงแผนลดต้นทุนแรงงานเพิ่มเติมราว 10% และการเปลี่ยนไปใช้เคมีที่ผสมเองซึ่งช่วยลดผลกระทบจากเงินบาทผันผวนและราคาทองแดงที่ปรับขึ้น ทั้งนี้บริษัทคาดว่า GPM ปี 2026 จะได้อานิสงส์จาก product mix ใหม่ ๆ

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

✅วันศุกร์ ติดตามดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย (TH Industrial Production) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.60% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.02% YoY

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

📝 เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

⛳Follow us :

📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW