☀️KS Daily View 14 พ.ย. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ได้เล็กน้อยในกรอบ 1,280-1,300 จุด หลังหลายบริษัทรายงานผลประกอบการ 3Q25 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจหนุนให้ SET มีแนวโน้มกลับไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุด แนะนำ BAM และ SYNEX
📊 แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนี S&P500 ลดลง 1.66%, Nasdaq Composite ลดลง 2.29%, และ Dow Jones ลดลง 1.65% จากนักลงทุนได้ปรับลดความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคมลง หลังมุมมองที่เริ่มดู hawkish ขึ้นของเฟดหลายท่าน
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,287.44 จุดเพิ่มขึ้น +2.63 จุด (+0.20%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มโรงพยาบาล, และกลุ่มประกัน ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ได้เล็กน้อยในกรอบ 1,280-1,300 จุด หลังหลายบริษัทรายงานผลประกอบการ 3Q25 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างกลุ่มธนาคาร อิเล็กทรอนิกส์ ประกัน และการเงิน ที่อาจหนุนให้ SET มีแนวโน้มกลับไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้ อย่างไรก็ตามภาพระยะสั้นอาจถูกเหนี่ยวรั้งไว้ด้วย ภาพ sentiment เชิงลบของต่างประเทศที่เฟดอาจชะลอการปรับลดอัตาดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ประกอบกับการเมืองไทยที่เริ่มกลับมามีความตึงเครียดขึ้นรวมถึงข้อพิพาททางชายแดน ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นมีผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งใน 3Q35 และต่อเนื่องไปยัง 4Q25 อย่าง BAM ที่มีปัจจัยบวกหนุน เก็งการตั้ง JV AMC กับธนาคารใหญ่ และ SYNEX ได้รับประโยชน์จากวัฏจักรการเปลี่ยนสินค้า IT ที่แข็งแกร่ง
🚩ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- รัสเซียมีกำลังการกลั่นน้ำมันลดลงเพียง 3% ในปีนี้ แม้ยูเครนจะเพิ่มการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งพุ่งเป้าไปที่โรงกลั่น น้ำมัน คลังเก็บ และท่อส่ง เพื่อบั่นทอนรายได้หลักของมอสโกจากน้ำมัน โดยยูเครนโจมตีโรงกลั่นสำคัญอย่างน้อย 17 แห่ง ทำให้กำลังการกลั่นบางช่วงหยุดชะงักสูงสุดถึง 20% แต่รัสเซียสามารถใช้กำลังการผลิตสำรองและเร่งซ่อมแซมหน่วยที่เสียหาย ทำให้กำลังการกลั่นลดลงจริงเพียง 6% หรือประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวัน มองเป็นบวกเล็กน้อยกับ TOP SPRC BSRC BCP
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า บรรยากาศท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นเติบโตต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยวันละ 9–10 หมื่นคน และคาดว่าช่วงปีใหม่ 2026 จะเพิ่มขึ้นอีก 20–30% YoY พร้อมมอบหมายให้ ททท. ดำเนินโครงการ “Trusted Thailand” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและมาตรฐานบริการแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งโครงการนี้เปิดให้สถานประกอบการ 4 ประเภทสมัครรับตราสัญลักษณ์ความเชื่อมั่น ครอบคลุมด้านความปลอดภัย การชำระเงิน ระบบสื่อสาร และการเดินทางปลอดภัย มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง CENTEL EWR SHR
- BAM เตรียมปิดดีลตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ (JV AMC) กับธนาคารพาณิชย์ใหญ่ 2 แห่งภายในปีนี้ โดยแต่ละธนาคารจะโอนหนี้ด้อยคุณภาพล็อตแรก 10,000 ล้านบาท รวม 20,000 ล้านบาทเข้าสู่การบริหาร ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพการเรียกเก็บหนี้ในอนาคต
- นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี เผยว่าได้หารือกับผู้บริหาร SpaceX ซึ่งต้องการนำโครงข่ายอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เข้ามาลงทุนในไทย โดยอ้างเงื่อนไขจากประกาศทำเนียบขาวที่กำหนดให้ Starlink ต้องถือหุ้นต่างชาติ 100% หากจะดำเนินธุรกิจในไทย แต่นายไชยชนกยืนยันว่าประเทศไทยไม่สามารถยอมให้ต่างชาติถือหุ้นเต็มรูปแบบในกิจการโทรคมนาคมได้ เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบความมั่นคงดิจิทัล จึงไม่สามารถร่วมมือภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ THCOM
- COCOCO เปิดเผยว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานน้ำมะพร้าวที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในจังหวัดราชบุรี หลังเกิดกระแสข่าวออนไลน์ พร้อมย้ำว่าโรงงานของบริษัทตั้งอยู่คนละพื้นที่และ ผ่านมาตรฐานสากลครบถ้วน ทั้ง ISO 22000, HACCP, GMP, BRC และ Halal บริษัทระบุว่าดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน และสนับสนุนการตรวจสอบของภาครัฐเพราะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมมะพร้าวไทย
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
🎯 BAM: ราคาพื้นฐาน 8.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ BAM จากแนวโน้มกำไร 4Q25 จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากไม่มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญพิเศษ (ECL) ประมาณ 300 ลบ. เหมือนใน 3Q25, backlog ขนาดใหญ่ประมาณ 1.5 พันลบ. ที่จะรับรู้ใน 4Q25, และฤดูกาลเก็บเงินสดที่สูงขึ้น โดยผู้บริหารตั้งเป้าการจัดเก็บเงินสดใน 4Q25 ที่ 4 พันลบ. เทียบกับ 3.65 พันลบ. ใน 3Q25 อีกทั้งเก็งปิดดีลตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ (JV AMC) กับธนาคารพาณิชย์ใหญ่ 2 แห่งภายในปีนี้
🎯 SYNEX: ราคาพื้นฐาน 15.75 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ SYNEX หลังรายงานกำไร 3Q25 ที่ 198 ลบ. หากไม่รวมรายการพิเศษอย่าง กำไรจากการลงทุนจำนวน 20 ลบ. กำไรจากผลประกอบการหลักอยู่ที่ 179 ลบ. เพิ่มขึ้น 25.5% YoY จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ควบคุมได้ดี และเพิ่มขึ้น 8.3% QoQ จากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่กว้างขึ้น หนุนให้รายได้และกำไรสุทธิช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 เติบโตขึ้น 15% และ 20% YoY แสดงให้เห็นถึงวัฏจักรการเปลี่ยนสินค้าที่แข็งแกร่งในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น สมาร์ทโฟน กลุ่มองค์กร และอุปกรณ์เสริม ในขณะเดียวกันเป้ารายได้และกำไรขอบบนของผู้บริหารบ่งชี้ว่ารายได้และกำไรใน 4Q25 ยังคงจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 15% และ 65% YoY
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
✅วันศุกร์ ติดตามดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของจีน (China Industrial production) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 5.5% YoY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.5% YoY และ ดัชนียอดค้าปลีกของจีน (China Retail sales) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.0% YoY ปิดท้ายด้วยตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไตรมาสที่สามปี 2025 ครั้งที่สองของโซนยุโรปตลาดคาดที่ +1.3% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า
*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

📝 เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!
📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW
ภาษาไทย
English