🐔 KS: CPF เห็น upside เล็กน้อยจากการนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ
✅ CPF รายงานกำไรไตรมาส 3/2568 ที่ 5.2 พันลบ. ลดลง 29% YoY และ 50% QoQ หากไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน กำไรปกติอยู่ที่ 6.3 พันลบ. ลดลง 5.7% YoY และ 41.5% QoQ กำไร 9 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็น 86% ของประมาณการกำไรปี 2568 ของเรา
✅ คาดแนวโน้มดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 2569 ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.68) ผู้บริหารของ CPF มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อครึ่งแรกของปี 2569 เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของราคาสุกรในประเทศหลังเทศกาลกินเจ ต้นทุนการเลี้ยงที่คาดว่าจะทรงตัวต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2569 และมติ ครม. ล่าสุดที่อนุมัติการนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ จำนวน 1 ล้านตัน เริ่มตั้งแต่เดือนก.พ. 2569 โดยราคาข้าวโพดสหรัฐฯ ปัจจุบันต่ำกว่าข้าวโพดไทยประมาณ 1.3 บาท/กก. (13%) ซึ่งหากคำนวณที่ประมาณ 10% ของการใช้ข้าวโพดทั้งหมด และอาจให้ upside ต่อประมาณการกำไรปี 2569 ของเราราว 1–2% ผู้บริหารระบุว่าการนำเข้าจากสหรัฐฯ น่าจะทดแทนการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านการขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากความไม่สงบในเมียนมาและบริเวณชายแดนกัมพูชา
✅การดำเนินงานในต่างประเทศ CPF คาดว่าธุรกิจสุกรในเวียดนามและจีนจะทยอยฟื้นตัวหลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย การระบาดของ ASF ในเวียดนาม และมาตรการควบคุมอุปทานของรัฐบาลจีน ขณะเดียวกัน ผลประกอบการของ Bellisio ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในสหรัฐฯ ยังคงอ่อนแอ และมีผลขาดทุนต่อเนื่องหลายปี และยิ่งถูกกดดันเพิ่มขึ้นจากมาตรการภาษีล่าสุดของสหรัฐฯ ผู้บริหารระบุว่าบริษัทฯ เปิดรับความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อช่วยพลิกฟื้นธุรกิจดังกล่าว
✅กลยุทธ์ระยะยาว CPF ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนอาหารแปรรูปเพื่อบรรเทาความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น และยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การนำบริษัทย่อยในเวียดนามเข้าจดทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสิ้นปี 2568 โดยจะเป็นก้าวสำคัญในการลดภาระทางการเงินและลดค่าใช้จ่ายทางการเงินในอนาคต
✅แนวโน้มไตรมาส 4/2568 ผู้บริหารให้ข้อมูลว่ายังมีการระบาดของ ASF ในบางพื้นที่หลังเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในไตรมาส 3/2568 ส่งผลให้เกิดการเทขายและฉุดราคาสุกรไทยลงแรงในช่วงต้นไตรมาส 4/2568 ซึ่งราคาสุกรเริ่มฟื้นตัวในเดือนพ.ย. 2568 แม้ว่าเรายังคงระมัดระวังต่อการดำเนินงานในไทยและเวียดนาม แต่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในรัสเซียและฟิลิปปินส์น่าจะช่วยสนับสนุนได้ เราคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2568 จะทรงตัว QoQ เราคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 2.8 หมื่นลบ. (+45% YoY) สำหรับปี 2569 เราคาดว่ากำไรจะลดลง 29% เหลือ 2 หมื่นลบ. จากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่จะกลับสู่ระดับปกติที่ 14.4% (เทียบกับ 18.3% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 และค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 14–15%)
มุมมอง KS
✍️ แนะนำ “ถือ” Target Price 24.40 บาท
อิงวิธีรวมส่วนของกิจการ (SOTP) ประกอบด้วย 8.8 พันลบ. สำหรับธุรกิจหลักของ CPF (อิง 1SD ต่ำกว่าค่า PER เฉลี่ยในอดีตของ CPF), 1.42 แสนลบ. สำหรับสัดส่วนถือหุ้นใน CPALL และ 1.5 หมื่นลบ. สำหรับสัดส่วนถือหุ้นใน CPAXT สะท้อนการปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายที่ลดลง

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #หุ้น #หุ้นไทย #ข่าวหุ้น #ลงทุน #CPF
ภาษาไทย
English