KS FUND TOP PICK 29 ก.ย. - 3 ต.ค. 2025

KS FUND TOP PICK 29 ก.ย. - 3 ต.ค. 2025

Analysis by KS Research Strategy
Sept 29, 2025
Back

KS FUND TOP PICK

29 ก.ย. - 3 ต.ค. 2025

ตลาดหุ้นโลกพักฐาน ตัวเลขเศรษฐกิจดีเกินไปดัน Bond Yield ดีดขึ้นตลาดไม่ชอบ แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมก่อนเข้า High season ใน Q4

  • ตลาดหุ้นโลก (ACWI) ปรับตัวลงเล็กน้อย พักฐานตามที่เราคาด จากการที่ตลาดเข้าสู่ช่วงที่ค่อนข้างเว้นว่างจากปัจจัยสำคัญ อีกทั้งช่วงปลายเดือนกันยายนตลาดหุ้นมีสถิติที่แย่ที่สุดประจำเดือน โดยในสัปดาห์นี้ตลาดเคลื่อนไหวโดยมี narrative “good news is bad news” จากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดโดยเฉพาะ GDP 2Q25 ที่ถูกปรับทบทวนขึ้นจากเติบโต 3.3% QoQ เป็น 3.8% QoQ เป็นการเติบโตมากที่สุดในรอบ 7 ไตรมาส หนุนโดยการปรับเพิ่มการบริโภคจาก 1.6% QoQ เป็น 2.5% QoQ และการลงทุนทรัพย์สินทางปัญญาจาก 12.8% QoQ เป็น 15% QoQ รวมถึงตลาดแรงงานยังสะท้อนความแข็งแกร่งหลัง Initial jobless claims ออกมาที่ 218,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี (10Y UST) ปรับตัวขึ้นราว 5 bps สู่ระดับ 4.2%

อีกทั้งช่วงปลายสัปดาห์ตลาดได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการที่สหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้า (tariff) สินค้าในกลุ่มยา 100% เริ่มต้นวันที่ 1 ต.ต. 2025 สำหรับบริษัทที่ยัง ไม่เริ่มก่อสร้าง หรือไม่มีแผนสร้างโรงงานผลิตยา ในสหรัฐฯ และมีแผนจะใช้ “1:1 chip production rule” ที่ผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ ต้องผลิตให้ได้ในปริมาณที่เท่ากับการนำเข้า หากไม่ผ่านเกณฑ์นี้จะถูกเก็บภาษีที่อาจสูงถึง 100%

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยมีการเคลื่อนไหวอย่างผันผวน แม้ระหว่างสัปดาห์ดัชนี S&P 500 จะปรับตัวขึ้นแตะ 6,700 จุด ได้ จากการประกาศเข้าลงทุนใน OpenAI 100 ล้านดอลลาร์ ของ Nvidia เพื่อสร้าง AI Datacenter ขนาดไม่น้อยกว่า 10 กิกะวัตต์ ใช้ชิปล่าสุด (Vera Rubin) ของ Nvidia ที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 4-5 ล้านชิ้น แต่จากคำแถลงของ Powell ที่พูดถึงตลาดหุ้นว่ามีมูลค่าที่ค่อนข้างสูง (equity prices are fairly highly valued) รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด ทำให้ 10Y UST ปรับตัวขึ้น กระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมา

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมารีบาวด์ได้ในวันศุกร์หลังรายงานตัวเลข Core PCE ออกมาตามคาด ซึ่งเงินเฟ้อยังไม่ได้เร่งตัวขึ้นมากนัก กอปรกับรายได้และการใช้จ่ายของครัวเรือนยังแข็งแกร่ง ซึ่งลดทอนความกังวลด้านการบริโภคลง ทั้งนี้หุ้นในกลุ่ม Energy เป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้น outperform ที่สุด จากราคาน้ำมันที่ขึ้นตามความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ หลังทรัมป์เสนอให้ NATO ยิงเครื่องบินรบรัสเซียที่ละเมิดน่านฟ้า และส่งสัญญาณพร้อมสนับสนุนยูเครนในการทวงคืนดินแดนที่รัสเซียยึดไป

  • ตลาดหุ้นนอกสหรัฐฯ ภาพรวมมีการพักฐานเช่นกัน นำโดยตลาดหุ้นอินเดียที่ปรับตัวลงแรงจากหุ้นในกลุ่ม IT software หลังทรัมป์ประกาศขึ้นค่าธรรมเนียม Visa H-1B ที่กระทบการเคลื่อนย้ายแรงงานชาวอินเดีย, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และไต้หวันที่เผชิญแรงขายหนักในวันศุกร์จากมาตรการ 1:1 chip production rule

ขณะที่หุ้นจีนปรับตัวผสมผสาน CSI 300 ปรับตัวขึ้นจากกลุ่ม Semiconductors หลัง Alibaba เปิดตัวโมเดล AI “Qwen3‑Max” ที่มีพารามิเตอร์กว่า 1 ล้านล้าน พร้อมประกาศเพิ่มงบลงทุนใน AI / Infrastructure เกินกว่าแผนเดิมที่ 380 พันล้านหยวนใน 3 ปี ซึ่งหนุนให้หุ้น Alibaba ปรับตัวขึ้นแรงด้วยเช่นกัน แต่ไม่สามารถชดเชยการปรับตัวลงของหุ้นใน HSCEI ที่ส่วนใหญ่ปิดลบได้

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี โดยดัชนี Topix outperform มากที่สุดในสัปดาห์ที่แล้ว และปิดที่ระดับ All time high ตอบรับการแถลงเชิง Dovish ของผู้ว่า BOJ ที่จะดำเนินการขาย ETF อย่างค่อยเป็นค่อยไป และตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากหุ้นในกลุ่ม Energy และ Utilities

  • ในสัปดาห์นี้ เรามองว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคเป็นหลัก โดยแนะนำให้ติดตามตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงส่งสัญญาณอ่อนแออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น JOLTs Job Openings ที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 7.1 ล้านตำแหน่ง และ Nonfarm Payrolls เดือนก.ย.ที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 39,000 ตำแหน่ง (เทียบกับเดือนก่อนที่ 22,000 ตำแหน่ง) ขณะที่อัตราว่างงานคาดว่าจะทรงตัวที่ 4.3% และค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.3% MoM

นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงของกรรมการเฟดตลอดทั้งสัปดาห์ สำหรับดัชนี ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่ที่ 48.0 สะท้อนภาคการผลิตที่ยังคงหดตัว ขณะที่ ISM Services PMI ยังคงอยู่ในโซนขยายตัว

ทางด้านยุโรป แนะนำให้จับตาตัวเลขเงินเฟ้อ Eurozone เดือนก.ย. ซึ่งคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นมาที่ 2.3% อาจมีผลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของ ECB สำหรับเอเชีย เน้นติดตาม PMI ของจีนทั้ง NBS และ RatingDog (เดิมคือ Caixin) รวมถึงข้อมูลส่งออกเกาหลีใต้เดือน ก.ย. ที่เป็น Proxy สำคัญต่อ Semiconductor Global Demand และผลสำรวจ Tankan ญี่ปุ่น Q3 ที่สะท้อนมุมมองของธุรกิจขนาดใหญ่ต่อเศรษฐกิจ และการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP ขณะที่ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.50%

  • เราประเมินว่าตลาดหุ้นโลกยังคงอยู่ในภาวะพักฐานต่อเนื่อง เพราะข้อมูลเศรษฐกิจรอบนี้สามารถตีความได้ทั้งสองด้าน โดยเฉพาะตัวเลขตลาดแรงงานที่หากออกมาดีกว่าคาด ตลาดอาจมองว่าเฟดอาจไม่ได้ลดดอกเบี้ยเร็ว (good news is bad news) แต่หากออกมาแย่กว่าคาดอาจยิ่งกระตุ้นความกังวลต่อเศรษฐกิจที่อ่อนแอ (bad news is bad news) ทำให้ตลาดมีเหตุในการหา narrative เชิงลบได้ทั้งสองทาง อีกทั้งตลาดยังอยู่ในช่วงที่เว้นว่างจากการรายงานผลประกอบการซึ่งเป็นข้อมูลที่จับต้องได้มากที่สุด ที่จะกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งในช่วงกลางเดือนตุลาคม

เราจึงมองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสในการทยอยลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ยังมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ไม่มากนัก โดยเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อ 4Q25 อย่างมาก โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากผลประกอบการของ Micron ยืนยันภาพความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยบริษัทเปิดเผยว่าชิปหน่วยความจำขั้นสูง (high bandwidth memory) ถูกจองเต็มไปจนถึงปี 2026 แล้ว

เราแนะนำให้ใช้จังหวะพักฐานทยอยลงทุนใน K-GSELECTU-A(A) สำหรับ Core Portfolio และ KKP TECH-UH ที่เน้นกลุ่ม Technology และ Communication Services สำหรับ Satellite Portfolio ระยะ 12 เดือน เพื่อเตรียมรับ High season ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วง 4Q25 ที่จะได้แรงหนุนทั้งจากการลดดอกเบี้ยของเฟดและผลประกอบการกลุ่มเทคโนโลยี

นอกจากนี้ เรายังแนะนำให้กลับเข้าลงทุน UGISFX-N หลังจาก 10Y UST ปรับขึ้นมาใกล้ระดับ 4.20% ตามที่ประเมินไว้ และสำหรับ ONE-FFI ที่วางไว้เป็น Satellite Portfolio ระยะสั้น 3-6 เดือน เพื่อเก็งกำไรจากค่าเงินบาท ก็สามารถกลับเข้าลงทุนได้อีกครั้งหลังเงินบาทอ่อนค่ากลับมาอยู่ในกรอบ 32-33 บาท/ดอลลาร์ แต่ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนหากเงินบาทแข็งค่าลงไปต่ำกว่า 31.50 บาท/ดอลลาร์

Implication

Buy lists

Satellite port (สำหรับช่วง 6 - 12 เดือน)

  • KKP TECH-UH: กองทุนหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares Expanded Tech หรือ IGM (ETF) เน้นลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ในกลุ่ม Technology และ Communication Services โดย IGM (ETF) ปรับตัวลง 0.88% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลักๆ มาจากการปรับฐานของหุ้น Oracle รวมถึงหุ้นในกลุ่ม Communication services อย่าง Google และ Meta หลังจากปรับตัวขึ้นมามาก รับความกังวลที่ Powell กล่าวถึงภาวะที่มูลค่าหุ้นค่อนข้างสูง และความไม่แน่นอนเรื่องภาษีนำเข้าชิป อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้ยังได้แรงหนุนจากหุ้น Apple ที่ปรับตัวขึ้นทำ new high ขานรับความต้องการ iPhone 17 ที่มากกว่าคาด

สำหรับกลุ่มเทคฯ สหรัฐฯ สัปดาห์นี้ เน้นติดตามพัฒนาการเรื่องภาษีนำเข้าชิป และตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคอย่างตลาดแรงงาน เราคงคำแนะนำซื้อ โดยเฉพาะเมื่อ IGM (ETF) มีการย่อตัวลง โดยมีกรอบการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

  • K-JP-A(D): กองทุนหุ้นญี่ปุ่นที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Lazard Japanese Strategic มีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มการเงินราว 20% โดยหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ดัชนี Topix +1.25% ทำระดับ all time high หลังผู้ว่า Kazuo Ueda ได้ให้ความเห็นค่อนข้าง Dovish ว่าการขาย ETF จะดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงอัตราเงินเฟ้อในกรุงโตเกียวที่ออกมาต่ำกว่าคาด

สำหรับญี่ปุ่น สัปดาห์นี้ให้ติดตามผลสำรวจ Tankan Q3 ที่สะท้อนมุมมองของธุรกิจขนาดใหญ่ต่อเศรษฐกิจ และการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP โดยเรายังคงคำแนะนำซื้อเมื่อดัชนี Topix มีการย่อตัวลง โดยมีกรอบการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

Satellite port (สำหรับช่วง 3 - 6 เดือน)

  • ONE-FFI: กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นโดยปัจจุบันมี Port Duration ที่ 4 เดือน 9 วัน และมี Yield to Maturity ที่ 4.13% ต่อปี กองทุนไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedged) ซึ่งเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เรามองว่าค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไปตรงข้ามกับปัจจัยพื้นฐาน

เราปรับคำแนะนำให้กลับมาเข้าลงทุนหลังค่าเงินบาทอ่อนค่ากลับเข้ามาในกรอบ 32 – 33/USD โดยมีเป้าหมายการทำกำไรที่ 35/USD และจุดตัดขาดทุนที่ 31.5/USD

Holding lists

Satellite port (สำหรับช่วง 6 - 12 เดือน)

  • TUSFIN-A: กองทุนหุ้นกลุ่มการเงินในสหรัฐฯ ลงทุนผ่านกองทุนหลัก XLF (ETF) โดยหุ้นในกลุ่มการเงินสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อย -0.72% จากแรงขายทำกำไรตามสภาวะตลาดโดยรวม แต่กลุ่มนี้สามารถฟื้นตัวแข็งแกร่งในวันศุกร์ หลังตัวเลข Core PCE ออกมาตามคาด รวมถึงรายได้และการใช้จ่ายของครัวเรือนยังแข็งแกร่ง

เราแนะนำ Let profit run และติดตามตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ รวมถึง ISM Manufacturing

KS-FUND-TOP-PICK-1200x1200.jpg

เปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมกับ KS ลงทุนได้หลากหลาย บลจ. >> https://ksecurities.co/Open-Account_Fund

Follow us :

LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads

KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #กองทุน #ผลตอบแทน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #FUND #กลยุทธ์การจัดพอร์ต

Search

Recommended searches