KS Daily View 29.07.2025 >>> ปัญหาไทย-กัมพูชาดูคลี่คลาย EU ได้ดีลกับสหรัฐในอัตราภาษีที่ 15% มองกรอบ SET วันนี้ 1,200-1,225 จุด แนะนำ AURA และ SIRI
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดดัชนีตลาด SET index ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,190 - 1,230 มองแนวโน้มหลักของดัชนีเป็นการฟื้นตัว ตาม Sentiment โดยเฉพาะในส่วนของปัจจัยต่างประเทศที่ดูดีขึ้น หลังสหรัฐ-ยุโรปบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนครบกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. อีกทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาดูคลี่คลายอย่างน้อยในช่วงสั้น อย่างไรก็ดี upside ของตลาดหุ้นไทยด้านบนอาจเริ่มดูจำกัดเช่นกัน หลังดัชนี SET index ฟื้นตัวแรงกว่า 15% บนความคาดหวังว่าประเทศไทยจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าในระดับ 20% ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ประเด็นเรื่องการเมืองในประเทศ คาดว่ามีความเสี่ยงของความล่าช้าของการโหวตพ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ในวาระ 2 และ 3 ที่ลดลง รวมถึงความหวังบนผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ที่มีแนวคิดนโยบายเชิงผ่อนคลายมากขึ้น ช่วยเสริมสภาพคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่ออกมาสูงกว่าที่คาด โดยแม้ NIM อาจลดลงจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่ non-NII และพวก investment gains ถือว่าออกมาดีกว่าที่ตลาดมอง
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1217.15 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.88% จากสัปดาห์ที่ผ่านหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, ขนส่ง, และวัสดุก่อสร้าง ในวันนี้เราประเมินว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัว sideway up อยู่ในกรอบ 1,215–1,230 จุด หลังปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาดูคลี่คลายอีกทั้งภาพต่างประเทศอย่าง EU ได้ดีลการค้ากับสหรัฐในอัตราภาษีที่ 15% แนะนำ SAV และ OSP
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1) ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีประเทศไทย กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ได้มีมติข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมจะมีการจัดประชุมอีกครั้งในเช้าวันพรุ่งนี้ (29ก.ค.) และหารือในประเด็นการค้าบริเวณชายแดน (GBC) ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ซึ่งหากทั้ง 2 สามารถบรรลุข้อตกลงกับการเปิดการค้าที่บริเวณด่าน เรามีมุมมองบวกอ่อนๆต่อภาพรวมการลงทุน โดยคาดว่าอาจมีแรงเก็งกำไรในหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ในกัมพูชาอทิ CBG, OSP, SAV, AEONTS, CPALL , CPAXT
2) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงว่าประเทศได้บรรลุข้อตกลงการค้าครั้งสำคัญกับสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งรวมถึงการลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU จากที่เคยขู่จะเรียกเก็บ 30% เหลือ 15% ภายหลังการเจรจากับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน โดย EU ตกลงจะจัดซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มการลงทุนอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ และมีแผนจัดซื้อยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม มองเป็น sentiment เชิงบวกกับ KCE
3) ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ และจีนกำลังเจรจาการค้าในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เพื่อขยายเวลาสงบศึกทางการค้าออกไปอีก 90 วัน ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 12 ส.ค. เพื่อผ่อนปรนการระงับการส่งออกแร่หายากที่จีนถือครองตลาดไว้ แลกกับลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนบางรายการลง 20% และให้จีนซื้อสินค้าเกษตรเพิ่ม รวมไปถึงผ่อนปรนการควบคุมส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง มองเป็น sentiment เชิงบวกกับ SCC PTTGC IVL PSL RCL
4) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตมีแผนปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ โดยจะพิจารณาจากสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ (Local Content) มากขึ้น รถยนต์ที่มีการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศในอัตราสูง จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากกว่ารถยนต์ที่ใช้ชิ้นส่วนนำเข้าเป็นหลัก แม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าก็ตาม มองเป็นบวกกับ AH และ SAT
5) กระทรวงคมนาคมหารือกับกระทรวงการคลัง และจ้างบริษัทที่ปรึกษาพิจารณาการลงทุน PPP 30 ปีในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด คาดสร้างรายได้ 1 หมื่นลบ. เพื่อซื้อคืนเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซื้อคืนรถไฟฟ้าจากเอกชนใน 2 ปี ในขณะเดียวกันจะมีการเสนอชดเชยรายได้สายสีเขียว ฉบับเข้าการประชุมสภาในวันที่ 7 ส.ค. นี้ มองเป็นบวกกับ BTS
6) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้กำหนดเส้นตายใหม่ให้รัสเซีย 10-12 วันในการแสดงความคืบหน้าในการยุติสงครามยูเครน มิฉะนั้นจะเผชิญกับมาตรการลงโทษ ซึ่งอาจรวมถึงการคว่ำบาตรและภาษีเพิ่มเติม มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาน้ำมันและ PTTEP
Daily pick
SAV: ราคาพื้นฐาน 19.23 บาท
คาดได้จิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกภายหลังประเทศไทยกับกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงพร้อมทั้งเดินหน้าเปิดทางเจรจาครั้งถัดไป โดยนับต้้งแต่การเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศกัมพูชาและประเทศไทยในช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาพบว่าราคาหุ้น SAV ปรับตัวลดลงกว่า 25% สะท้อนความกังวลดังกล่าว สำหรับผลกระทบเรื่องการปิดน่านฟ้าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นเราประเมินผลกระทบประมาณ 2.0 แสนเหรียญสหรัฐ /สัปดาห์ หรือราวๆ 400 เที่ยวบิน overflight ที่ยกเลิกไป โดยคิดเป็น 0.3% ต่อประมาณการรายได้ปีนี้ของเรา ในขณะที่เราประเมินกำไร 2Q25 ยังคงแข็งแกร่งที่ 131ล้านบาท (-13%QoQ, +12%YoY) ในขณะที่คาดว่ากำไร 3Q25 จะทรงตัว QoQ
OSP: ราคาพื้นฐานที่ 20.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ OSP จากแนวโน้มของกำไร 2Q25 จะเติบโตขึ้น YoY และ QoQ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงเป็นประวัติการณ์หนุนโดยสัดส่วนยอดขายส่งออกและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่มากขึ้น ประกอบกับยอดขายเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศหลังการ destocking จบลงในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ยอดขายจะฟื้นตัวในแต่ละไตรมาสใน 2H25 โดยเครื่องดื่มในประเทศจะกลับมาเป็นบวกทั้งแบบ YoY และ QoQ เมื่อเริ่มแคมเปญใหม่ราคา 12 บาท โฆษณาในครึ่งแรกมีน้อยลงเนื่องจากเน้นการเปิดตัว Yellow Cap
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ของสหรัฐ (US JOLTS Job openings) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 7.55 ล้านตำแหน่งชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.769 ล้านตำแหน่ง ต่อด้วยติดตามดัชนีรายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของคณะกรรมการการประชุม (Conference Board Consumer Confidence) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 96.0 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 93.0 จุด
วันพุธ ติดตามการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ใน 2Q25 ของโซนยุโรปครั้งแรกตลาดคาดการณ์ที่ +1.2% YoY ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 1.5% YoY ต่อด้วยการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ใน 2Q25 ของสหรัฐครั้งแรกตลาดคาดการณ์ที่ +2.4% QoQ เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ -0.5% QoQ ปิดท้ายด้วยผลการประชุม FOMC โดยตลาดคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า
วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีน (China NBS Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดที่ 49.7 จุดทรงตัวจากครั้งก่อนหน้าต่อด้วยผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า และปิดท้ายด้วยรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US Core PCE Price Index) ตลาดคาดที่ 2.7% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
วันศุกร์ ติดตาม รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งแรก (EU CPI) เดือน ก.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +1.9% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.0% YoY ขณะที่สหรัฐมีการายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (US ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.5 จุดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.0 จุด และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.09 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.47 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.1%

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน
เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #KSTODAY