📦 KS: SCGP เยี่ยมชมโรงงานผลิตเยื่อกระดาษที่ จ.ขอนแก่น
📌 เหตุการณ์สำคัญ
เราได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตเส้นใยของ SCGP ที่ จ.ขอนแก่น บริษัท ฟีนิกซ์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) (PPPC) ธุรกิจเส้นใยนี้สร้างรายได้ 19% ของ SCGP หรือประมาณ 1.9 หมื่นลบ. โดยแบ่งสัดส่วนรายได้ระหว่างกระดาษ เยื่อกระดาษ และบริการด้านอาหารในอัตราส่วน 50/25/25 ประเด็นสำคัญคือ SCGP ใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานแบบปิดและผสานคุณค่าภายในห่วงโซ่อุปทานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนและความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 25% ภายในปี 2573
📌 โรงงาน Phoenix Pulp & Paper
PPPC เป็นธุรกิจหลักของ SCGP ซึ่งตั้งอยู่ใน จ.ขอนแก่น มีกำลังการผลิตรวม 428,000 ตันต่อปี ทำรายได้ 5.4 พันลบ. และ EBITDA ที่ 576 ลบ. ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ เยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์และเขียน และบรรจุภัณฑ์อาหาร สายการผลิตเยื่อละลายและเยื่อเคมีของ PPPC ผลิตให้จีน อินเดีย อาเซียน และไทย ซึ่งสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ยา อาหารและเครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
📌 ทำความเข้าใจกระบวนการผลิต
กระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษเริ่มต้นจากท่อนไม้ยูคาลิปตัสที่ถูกปอกเปลือกและสับละเอียด ก่อนเข้าสู่สายการผลิตเยื่อกระดาษ ซึ่งสารเคมีจะสลายเนื้อไม้ และระบบรีไซเคิลจะรีไซเคิลสารเคมีเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ เยื่อที่ได้จะถูกขายโดยตรงหรือส่งไปยังโรงงานผลิตกระดาษ เพื่อนำไปอัด อบแห้ง และแปรรูปเป็นกระดาษสำหรับพิมพ์ เขียน และกระดาษชนิดพิเศษ เยื่อบางส่วนยังถูกนำไปใช้ในกระบวนการผลิตเยื่อและบรรจุภัณฑ์สำหรับธุรกิจอาหาร ซึ่งขึ้นรูปด้วยกระบวนการขึ้นรูป อบแห้ง และตกแต่ง ห่วงโซ่การผลิตที่ครบวงจร ตั้งแต่การปลูก ไปจนถึงเยื่อ กระดาษ และบรรจุภัณฑ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน สนับสนุนความยั่งยืนผ่านระบบรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่ และช่วยให้ SCGP สามารถปรับเปลี่ยนการผลิตไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการของตลาด
📌 แนวโน้มปานกลางในไตรมาส 4/2568 แต่ปี 2569 จะปรับดีขึ้น
ในแง่ของผลประกอบการ เรามีมุมมองระดับปานกลางต่อกำไรไตรมาส 4/2568 โดยปัจจัยเร่งและกระตุ้นกำไรมีอยู่อย่างจำกัด เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะปรับดีขึ้นเล็กน้อย แต่ปริมาณการขายอาจลดลงในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่ากำไรปี 2569 จะปรับดีขึ้นจากปี 2568 เนื่องจาก
✅1) ราคากระดาษลูกฟูก (testliner) ในภูมิภาคที่ทรงตัว
✅2) และราคา RCP ที่ลดลงจากการห้ามและจำกัดการนำเข้าเยื่อรีไซเคิล ซึ่งทำให้ความต้องการวัตถุดิบในภูมิภาคลดลง และผลักดันให้กระดาษบรรจุภัณฑ์ในจีนเพิ่มขึ้น
เราคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมในปี 2569 ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของโรงงานในอินโดนีเซีย
🎯 แนะนำ “ถือ” และ TP ที่ 20.00 บาท จากแนวโน้มไตรมาส 4/2568 ที่ไม่น่าดึงดูดใจ ราคาเป้าหมายของเราอิงตามเป้า PER ที่ 18 เท่า หรือ -1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #หุ้นไทย #SCGP
ภาษาไทย
English