KS FUND TOP PICK 22 - 26 ก.ย. 2025

KS FUND TOP PICK 22 - 26 ก.ย. 2025

วิเคราะห์โดย KS Research Strategy
23 ก.ย. 2568
ย้อนกลับ

KS FUND TOP PICK 22 - 26 ก.ย. 2025

หุ้นโลกทำ All time high ขานรับเฟดกลับสู่เส้นทางลดดอกเบี้ย แนะติดตามงบ Micron เช็คความต้องการ AI และ Costco สำหรับการบริโภคในสหรัฐฯ ครึ่งปีหลัง

  • ตลาดหุ้นโลก (ACWI) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนหลักจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเอเชียเหนือ ทั้งจากปัจจัยมหภาคและปัจจัยเฉพาะตัวในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ตามที่ตลาดคาด เป็นการกลับสู่เส้นทางการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในรอบกว่า 1 ปี แม้ความเสี่ยงของเงินเฟ้อที่จะปรับตัวขึ้นจากภาษีนำเข้ายังคงมีอยู่ แต่ FOMC มองว่าความเสี่ยงดังกล่าวเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว (One-time impact) และความเสี่ยงด้านการจ้างงานใหม่เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้เฟดลดดอกเบี้ยเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง (Risk Management Cut) จากโอกาสในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 50 bps ใน 2 ครั้งการประชุมที่เหลือของปีนี้ และอีก 25 bps ในปีหน้า รวมทั้งสิ้น 75 bps ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 125 bps

สาเหตุมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านการปรับประมาณการการเติบโตของ GDP ในปี 2025 2026 และ 2027 ขึ้น และมอง Downside ลดลง แม้การบริโภคจะชะลอตัวลง แต่ด้วยแรงหนุนจากการลงทุนภาคเอกชนในส่วนของเทคโนโลยีที่สอดรับกับนโยบาย OBBB ของโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นเหนือ 4.10% อีกครั้ง

นอกจากนี้การประชุม FOMC ครั้งนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจก็คือ การกล่าวถึง AI Buildout ถูกกล่าวถึงใน Press Conference ของการประชุม FOMC เป็นครั้งแรก สะท้อนว่าการลงทุนด้านอุตสาหกรรม AI นั้นเริ่มมีบทบาทกระทบกับภาพเศรษฐกิจมหภาคและธนาคารกลางที่ใหญ่ที่สุดของโลก

  • ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ทั้ง 3 ดัชนี ได้แก่ Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq Composite ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะล้างอาถรรพ์เดือนกันยายนที่เป็น Seasonal Low การปรับตัวขึ้นนำโดยหุ้นในกลุ่ม Growth Sector อย่าง Communication Services, Technology และ Consumer Discretionary จากหุ้นที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นหลายตัว

ได้แก่ Google ที่ปรับตัวขึ้นจนมี Market Cap ทะลุ $3 trillion หลัง Citi ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจากความแข็งแกร่งของธุรกิจโฆษณาและ Cloud, Apple ที่ได้รับการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก JPMorgan หลังเปิดขาย iPhone 17 วันแรก มีความต้องการที่แข็งแกร่ง, Tesla หลัง Elon Musk เข้าซื้อหุ้นเพิ่มแสดงความเชื่อมั่นในทิศทางธุรกิจ, หุ้นในกลุ่ม Semiconductor Equipment จากการดีลความร่วมมือระหว่าง Nvidia และ Intel ในการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน โดยในตลาด Data Center Intel จะพัฒนา CPU x86 รุ่นใหม่เพื่อเชื่อมต่อกับ GPU ของ Nvidia ได้โดยตรง ส่วนในตลาด PC Intel จะนำการ์ดจอ RTX ของ Nvidia มาประกอบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ CPU ของ Intel และหุ้นธนาคาร JPMorgan, Bank of America, Wells Fargo, Citi, Goldman Sachs และ Morgan Stanley ที่ขึ้นทำ All time high

  • ตลาดหุ้นนอกสหรัฐฯ ค่อนข้างผสมผสาน โดยยุโรป Flat หลังมีแรงกดดันจากการที่ ECB ส่งสัญญาณสิ้นสุดกระบวนการลดอัตราเงินเฟ้อแล้ว ทำให้ตลาดมองอาจหมดแรงส่งจากนโยบายการเงิน

ในทางตรงกันข้าม ตลาดหุ้นเอเชียเหนือภาพรวมปรับตัวขึ้นนำโดย TWSE, Kospi และ Nikkei จากการขึ้นของหุ้นในกลุ่ม Semiconductors แม้ว่าในช่วงปลายสัปดาห์ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเผชิญแรงขายหลัง BOJ แม้คงดอกเบี้ยที่ 0.5% แต่มีเสียงแตก 7-2 และประกาศแผนทยอยขายกองทุน ETF ซึ่งเป็นการเริ่มต้นถอนมาตรการผ่อนคลาย แต่ผู้ว่า Kazuo Ueda ได้ให้ความเห็นในเชิง Dovish ในช่วงการแถลงว่าการขาย ETF จะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสามารถหยุดหรือชะลอได้หากตลาดผันผวน

สำหรับตลาดหุ้นจีนปรับตัวผสมผสาน โดย CSI 300 ปิดลบเล็กน้อยแม้หุ้น Semiconductors กลับมาขึ้นแรง แต่หุ้นในกลุ่มอื่นฉุดลง ขณะที่ HSCEI ได้รับแรงหนุนจาก SMIC, Alibaba และ Baidu หลังมีรายงานการทดสอบเครื่องจักรลิโธกราฟี Deep-Ultraviolet (DUV) ที่ผลิตในจีนเป็นครั้งแรก การเริ่มใช้ชิปที่พัฒนาเองแล้วของ Alibaba และ Baidu และการที่ทางการจีนสั่งห้ามใช้และหยุดซื้อชิปของ Nvidia จากเดิมที่เป็นเพียงการขอความร่วมมือ

  • ในสัปดาห์นี้ เราคาดว่าตลาดจะยังจับตาไปที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก ผ่านถ้อยแถลงของกรรมการเฟดรวมถึงประธานเฟด ที่จะช่วยชี้นำแนวโน้มดอกเบี้ยหลังจากเฟดเพิ่งปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

ได้แก่ GDP 2Q25 รอบสุดท้ายของสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 3.3% รวมถึง Core PCE ที่อาจมีการเร่งตัวขึ้น และความเห็นของบรรดากรรมการเฟดที่จะให้สัมภาษณ์หลังผ่านพ้นการประชุม FOMC สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ให้ติดตาม Manufacturing & Services PMI ของทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น พร้อมกับอัตราเงินเฟ้อในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ขณะที่จีนจะมีการเผย Loan Prime Rate และการแถลงข่าวจากผู้ว่าการธนาคารกลาง, ผู้อำนวยการหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน, ประธานกำกับดูแลหลักทรัพย์ และผู้อำนวยการบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตรา

ในด้านของผลประกอบการหุ้นสำคัญให้ติดตาม Micron Technology ที่เป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำขั้นสูงที่จะบ่งชี้ความต้องการของอุตสาหกรรมในช่วง 3Q25 และ Costco ที่เป็นตัวชี้วัดที่ดีสำหรับภาคการบริโภคและผลกระทบของภาษีนำเข้าในสหรัฐฯ

  • เราประเมินว่าตลาดหุ้นโลกอาจมีจังหวะพักฐาน หลังผ่าน Catalyst เชิงบวกในระยะสั้น อีกทั้งตามสถิติช่วงที่ตลาดทำผลตอบแทนได้แย่ที่สุด จะตรงกับช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดในช่วง 4Q25 อย่างมาก จากผลประกอบการ 3Q25 ของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่น่าจะออกมาเติบโตดีต่อเนื่อง

เราจึงแนะนำให้ใช้จังหวะที่ตลาดหุ้นโลกพักฐานในการทยอยลงทุนใน K-GSELECTU-A(A) สำหรับ Core Portfolio และ KKP TECH-UH ที่เน้นกลุ่ม Technology และ Communication Services สำหรับ Satellite Portfolio 12 เดือน เพื่อเตรียมรับ High Seasonality ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วง 4Q25 ที่จะมีแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ยของเฟดและผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี สำหรับ 10Y UST ได้กลับมารีบาวด์ขึ้นหลังเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยมากเท่าที่ตลาดคาด เราจึงแนะนำให้ใช้จังหวะที่ 10Y UST ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ 4.25% ในการทยอยลงทุน UGISFX-N สำหรับกองทุน ONE-FFI ที่เราวางไว้เป็น Satellite Portfolio ระยะสั้น 3-6 เดือน เพื่อเก็งกำไรจากค่าบาท จากปัจจุบันที่ค่าเงินบาทหลุดกรอบสะสมที่ 32-33.5 บาท/ดอลลาร์ เราจึงแนะนำให้ Wait & See และให้ตัดขาดทุนเมื่อค่าบาทแข็งค่าต่ำกว่า 31.50 บาท/ดอลลาร์

Implication

Buy lists

Satellite port (สำหรับช่วง 6 - 12 เดือน)

  • KKP TECH-UH: กองทุนหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares Expanded Tech หรือ IGM (ETF) เน้นลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ในกลุ่ม Technology และ Communication Services โดย IGM (ETF) ปรับตัวขึ้น 3.40% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขึ้นทำ All time high จากทั้งปัจจัยเฉพาะตัวของ Google ที่ปรับตัวขึ้นทะลุ $3 tn, Apple ที่การเปิดขาย iPhone 17 ได้รับการตอบรับที่ดี, Oracle ที่อาจได้ดีล TikTok และเตรียมให้บริการ Cloud กับ Meta มูลค่าดีล $20 bn และกลุ่ม Semiconductor equipment ที่ขึ้นทั้งกลุ่มจากดีล Nvidia เข้าซื้อหุ้น Intel

สำหรับกลุ่มเทคฯ สหรัฐฯ สัปดาห์นี้ติดตามการรายงานผลประกอบการของ Micron เราคงคำแนะนำซื้อ โดยเฉพาะเมื่อ IGM (ETF) มีการย่อตัวลง โดยมีกรอบการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

  • K-JP-A(D): กองทุนหุ้นญี่ปุ่นที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Lazard Japanese Strategic มีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มการเงินราว 20% โดยหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงเล็กน้อย ดัชนี Topix -0.41% พักฐานหลังจากที่ BOJ คงดอกเบี้ยที่ 0.5% แต่โทนค่อนข้างเข้มงวดกว่าที่ตลาดคาด จากการประกาศแผนขาย ETF อย่างไรก็ตามหลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ ผู้ว่า Kazuo Ueda ได้ให้ความเห็นค่อนข้าง Dovish ว่าการขาย ETF จะดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป

สำหรับญี่ปุ่น สัปดาห์นี้ให้ติดตามรายงานการประชุม BOJ, ตัวเลข PMI และอัตราเงินเฟ้อในกรุงโตเกียว โดยเรายังคงคำแนะนำซื้อเมื่อดัชนี Topix มีการย่อตัวลง โดยมีกรอบการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

Satellite port (สำหรับช่วง 3 - 6 เดือน)

  • ONE-FFI: กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นโดยปัจจุบันมี Port Duration ที่ 4 เดือน 9 วัน และมี Yield to Maturity ที่ 4.13% ต่อปี กองทุนไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedged) ซึ่งเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เรามองว่าค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไปตรงข้ามกับปัจจัยพื้นฐาน

เราจึงแนะนำให้ Wait & see หลังค่าเงินบาทหลุดกรอบสะสมที่ 32-33.5 บาท/ดอลลาร์ และให้ตัดขาดทุนเมื่อค่าบาทแข็งค่าต่ำกว่า 31.50 บาท/ดอลลาร์

Holding lists

Satellite port (สำหรับช่วง 6 - 12 เดือน)

  • TUSFIN-A: กองทุนหุ้นกลุ่มการเงินในสหรัฐฯ ลงทุนผ่านกองทุนหลัก XLF (ETF) โดยหุ้นในกลุ่มการเงินสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำ All time หลังเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps และส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมที่ต่ำกว่าตลาดคาด ซึ่งเรามองเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้ตลาดไม่ panic ว่าการรีบลดมาจากเศรษฐกิจถดถอย อีกทั้งยังมีการปรับเพิ่ม GDP เพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยหุ้นธนาคารใหญ่ 6 แห่ง JPMorgan, Bank of America, Wells Fargo, Citi, Goldman Sachs และ Morgan Stanley ขึ้นทำ All time high

เราแนะนำ Let profit run และติดตามตัวเลข GDP 2Q25 (Final), PMI และ Core PCE

KS-FUND-TOP-PICK-1200x1200.jpg

เปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมกับ KS ลงทุนได้หลากหลาย บลจ. >> https://ksecurities.co/Open-Account_Fund

Follow us :

LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads

KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #กองทุน #ผลตอบแทน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #FUND #กลยุทธ์การจัดพอร์ต

ค้นหา