KS Daily View 8 ส.ค. 2025

KS Daily View 8 ส.ค. 2025

Analysis by KS Research Strategy
Aug 8, 2025
Back

KS Daily View 8 ส.ค. 2025>>> คาด SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,255-1,275 จุด จาก upside จากระดับปัจจุบันยังจำกัด ขณะที่ key focus ของตลาดกลับมามองผลประกอบการบริษัทใน 2Q25 และ outlook ของการเติบโตใน 2H25 แนะนำ KTB และ TIDLOR

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน ดัชนี S&P500 ลดลง 0.08%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น +0.35%, แต่ Dow Jones ลดลง 0.51% โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากหุ้นของ Eli Lilly ร่วงลงหลังจากข้อมูลยาลดน้ำหนักแบบรับประทานของบริษัทออกมาน่าผิดหวัง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,265.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด (+0.05%) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มพลังงาน, กลุ่มธนาคาร, และกลุ่มอสังหา ในวันนี้ เราคาด SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,255-1,275 จุด จาก upside จากระดับปัจจุบันยัง จำกัดเทียบกับ SET Index target ของ KS ที่ 1,275 จุด ในขณะเดียวกันยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนการปรับตัวขึ้น ขณะที่ key focus ของตลาดกลับมามองผลประกอบการบริษัทใน 2Q25 และ outlook ของการเติบโตใน 2H25 หลังจากที่กำแพงภาษีที่ 19% มีผลตั้งแต่ในวันที่ผ่านมา อีกทั้งประเด็นทางการเมืองของไทยที่ไม่ได้ถูกพูดถึงในช่วงที่ผ่านมา  อาจกลับมาในเร็วนี้อย่างคดีทางการคุณแพทองธารและทักษิณที่อาจเปิด downside และ sentiment เชิงลบต่อตลาดได้ หลังปรับตัวขึ้นมาจากภาพเชิงบวกของต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา

ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ KTB และ TIDLOR จากผลประกอบการ 2Q25 ที่แข็งแกร่งและแนวโน้มกำไร 2H25 ยังคงเติบโต HoH ประกอบกับการควบคุม asset quality ที่ทำได้ดี

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ททท. เตรียมสนับสนุนการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก Tomorrowland ครั้งแรกในเอเชียที่ประเทศไทยช่วงปลายปี 2569 โดยได้รับความสนใจจากทีมผู้จัดงานทูมอร์โรว์แลนด์ซึ่งเล็งเห็นศักยภาพของไทย โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจกว่า 21,000 ล้านบาทในช่วง 5 ปีตามสัญญา (2026–2030) จากนักท่องเที่ยวกว่า 1 ล้านคนที่จะเข้ามายังประเทศไทย มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว AAV BA CENTEL ERW SHR
  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลายเป็นผู้มีแนวโน้มสูงสุดที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานเฟดคนใหม่ โดยได้รับความประทับใจจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ วอลเลอร์เคยลงมติสนับสนุนการลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของทรัมป์ที่ต้องการลดต้นทุนการกู้ยืม
  • รัสเซียได้ส่งออกแนฟทาไปยังเวียดนามเป็นครั้งแรก ท่ามกลางความพยายามเปิดตลาดใหม่หลังเผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก โดยเรือบรรทุกน้ำมัน Northernlight ที่จดทะเบียนภายใต้ธงมอลตา ได้ขนส่งแนฟทาประมาณ 60,000 ตันจากท่าเรือ Vysotsk ของรัสเซียเมื่อ 23 มิถุนายน และส่งมอบบางส่วนสูงสุดถึง 27,000 ตันที่ท่าเรือ Khanh Hoa ของเวียดนาม ก่อนมุ่งหน้าสู่ท่าเรือต้าเหลียนในจีนเพื่อขนถ่ายสินค้าที่เหลือ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบต่อ PTTGC SCC IRPC
  • ราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่หกโดย Brent และ WTI ปรับตัวลดลงประมาณ -0.7% ในคืนที่ผ่านมา  หลังมีข่าวว่าประธานาธิบดีปูตินจะพบกับประธานาธิบดีทรัมป์ในไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อเจรจายุติสงครามยูเครน แม้สหรัฐยังเตรียมคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อผู้ซื้อน้ำมันรัสเซีย รวมถึงเก็บภาษีนำเข้าจากอินเดียเพิ่มอีก 25% เนื่องจากยังคงซื้อน้ำมันรัสเซียอยู่มองเป็นลบเล็กน้อยกับ PTTEP
  • OR เปิดเผยว่าเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ในกัมพูชารวมกลุ่มยกเลิกสัญญาตัวแทนจำหน่ายกับบริษัท PTT (Cambodia) ยกเลิกการใช้แบรนด์ PTT เปลี่ยนเป็นแบรนด์ใหม่ของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อรายได้ของ OR มากนัก เพราะมีจำนวนปั๊มทั่วประเทศกัมพูชาเพียง 186 แห่ง และมีร้านคาเฟ่อเมซอนรวม 254 แห่ง หรือคิดเป็นผลกระทบต่อกำไรปี 2025 ประมาณ 3%

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • KTB: ราคาพื้นฐาน 26.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB จากแนวโน้มกำไรใน 2H25 จะปรับตัวดีขึ้น HoH โดยมีแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) จะลดลงต่อเนื่อง และ กำไรจากการลงทุนใน THAI ประกอบกับ การกลับรายการ ECL อาจเป็นแรงหนุนระยะสั้นต่อความสามารถในการทำกำไรใน 2H25 อีกทั้งเชื่อว่า KTB ยังคงมีโอกาสในการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล ขณะที่ผู้บริหารกำลังพิจารณาทั้งอัตราการจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสมซึ่งให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจแก่ผู้ถือหุ้น และโอกาสในการซื้อหุ้นคืน เราคงสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 50% โดยทุก ๆ การเพิ่มขึ้น 5% ของอัตราการจ่ายเงินปันผลจะช่วยเพิ่มอัตราตอบแทนจากเงินปันผลอีก 70bps ต่อปี

  • TIDLOR: ราคาพื้นฐาน 20.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกกับ TIDLOR หลังรายงานกำไร 2Q25 ที่ 1.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 6% QoQ และ 19% YoY ผลประกอบการสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 6% และสูงกว่าของตลาด 4% จากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ที่ต่ำกว่าคาด 17bps และอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่สูงกว่าคาด 12bps และการเติบโตของสินเชื่อไตรมาส 2/2568 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 1% QoQ และ 3% YoY อีกทั้งผู้บริหารคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตเร่งขึ้นในช่วง 2H25 ขณะที่ credit cost จะทรงตัวเมื่อเทียบกับ 1H25 และอัตราส่วนหนี้เสีย (NPL ratio) จะยังคงต่ำกว่า 2%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์  ติดตาม ตัวเลขอัตราการว่างงานของแคนาดา (Unemployment rate) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่  7.0% เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.9%

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

Follow us :

LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW

Search

Recommended searches