KS FUND TOP PICK 8 - 12 ก.ย. 2025

.jpg)
KS FUND TOP PICK 8 - 12 ก.ย. 2025
จับตาอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ก่อนการประชุม FOMC หลังตลาดแรงงานอ่อนแอหนุนเฟดกลับสู่เส้นทางการลดดอกเบี้ย
- ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลก (ACWI) เข้าสู่สัปดาห์แรกของเดือนกันยายนซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูง (Seasonal low) โดยปัจจัยหลักที่กดดันตลาดประกอบด้วยข่าว Alibaba ประกาศพัฒนาชิป AI เพื่อเร่งลดการพึ่งพาสหรัฐฯ และการที่ทรัมป์ประกาศเพิกถอนใบอนุญาตนำเข้าอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังโรงงานในจีน ซึ่งสร้างแรงกดดันหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ในเอเชียและทั่วโลก
นอกจากนี้ ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เช่น Job Opening (JOLTs), ADP payrolls และ Nonfarm payrolls ต่างออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% (จาก 4.2% ในเดือนที่แล้ว) ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ แต่หลักๆ ไม่ได้มาจากการไล่แรงงานออก แต่เป็นเพราะมีแรงงานเข้ามาในระบบมากขึ้น แต่ความต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้นไม่ทัน สะท้อนภาพการจ้างงานและตลาดแรงงานที่อ่อนแอ ขณะที่ดัชนี ISM Manufacturing ยังอยู่ในโซนหดตัว ถึงแม้ Macro จะค่อนข้างเป็นปัจจัยกดดัน แต่ตลาดตีความปัจจัยลบเหล่านี้เป็น “Bad news is good news” เพราะมองว่าการกลับสู่เส้นทางการลดดอกเบี้ยของเฟดจะเกิดขึ้นค่อนข้างแน่ในการประชุมกลางเดือนกันยายนนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้จะมีแรงขายในวันศุกร์จากตัวเลข Nonfarm ที่อ่อนแอมาก แต่ก็ยังสามารถปรับตัวลดช่วงลดลงได้ โดยทั้งสัปดาห์ดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวขึ้นราว 1.1% นำโดยหุ้นกลุ่ม Technology และ Communication Services โดยเฉพาะ Google ที่พุ่งทำ All time high หลังศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ไม่ต้องขาย Chrome หรือ Android ในคดีผูกขาด และ Broadcom หุ้นเซมิคอนดักเตอร์อันดับสองในสหรัฐฯ รองจาก Nvidia หลังเผยผลประกอบการดีกว่าคาด
ผู้บริหารมองว่าแนวโน้มรายได้ AI ในปีงบประมาณ 2026 (4QCY25) จะเร่งตัว (accelerate) มากกว่าปีนี้ ไม่ใช่แค่ maintain growth rate เดิมที่ 50-60% เหมือนไตรมาสก่อน ขณะที่ S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.33% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะเผชิญแรงขายในวันศุกร์ที่ดัชนีลดลง 0.32% โดยแรงหนุนมาจากความมั่นใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย หลังตัวเลขตลาดแรงงานและเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอกว่าคาด
อีกทั้งถ้อยแถลงของ Christopher Waller ตัวเต็งประธานเฟดต่อคนไปส่งสัญญาณสนับสนุนการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ ประกอบกับ 10Y UST ที่ปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ราว 4.08% ช่วยหนุนบรรยากาศในภาพรวม
- ตลาดหุ้นนอกสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวนในช่วงต้นเดือนกันยายน โดยตลาดเอเชียอย่าง Nikkei, TWSE และ Kospi เผชิญแรงขายในช่วงต้นสัปดาห์ จากการที่ Alibaba เร่งพัฒนาชิป AI เพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ และผลกระทบจากการที่ทรัมป์ยกเลิกใบอนุญาตนำเข้าอุปกรณ์ผลิตชิปไปจีน ทำให้เกิดแรงขายหุ้นเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ แต่ทั้งสามดัชนีค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงต่อจากนั้น
ขณะที่ตลาดจีน (CSI 300, HSCEI) หลังปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้าจากหุ้น Semi ก็เริ่มเผชิญแรงขาย โดยปัจจัยลบมาจากการที่ Alibaba ปฏิเสธข่าวซื้อ GPU จำนวนมากจาก Cambricon รวมถึงการที่รัฐบาลจีนเตรียมออกมาตรการเพื่อลดความร้อนแรงของตลาดหุ้นส่งผลให้ CSI 300 ปรับตัวลงแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ HSCEI ปรับตัวขึ้น 1.22% จากการขึ้นของ Alibaba ราว 20% ช่วงต้นสัปดาห์
ด้านตลาดยุโรปค่อนข้างทรงตัว จากความกังวลการเมืองและปัญหางบประมาณ โดยเฉพาะฝรั่งเศสและอังกฤษ อีกทั้งตัวเลข Core CPI ที่สูงกว่าคาดยังกระตุ้นความกังวลเงินเฟ้อ ขณะที่กรรมการ ECB อย่าง Schnabel แสดงความคิดเห็นว่า ไม่เห็นเหตุผลสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และความเสี่ยงเงินเฟ้อเอียงไปในทิศทางเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังถูกทรัมป์ขู่ใช้ Section 301 เพื่อต่อต้านการลงโทษที่ไม่ยุติธรรมหลังคณะกรรมการยุโรปปรับ Google เกือบ 3 พันล้านยูโร ข้อหาใช้อำนาจผูกขาดในเทคโนโลยีโฆษณา ส่วน Nifty 50 ของอินเดียปรับตัวขึ้น รับเศรษฐกิจ 2QCY25 โต 7.8% สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส
- ในสัปดาห์นี้ ปัจจัยสำคัญยังคงอยู่ที่ Macro ต่อเนื่อง โดยให้ติดตามอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ทั้ง CPI และ PPI ซึ่งจะเป็นข้อมูลชุดสุดท้ายก่อนการประชุม FOMC หากออกมาไม่ได้เร่งตัวเกินคาดการณ์ จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาดอย่างมาก เพราะจะยิ่งสนับสนุนการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของเฟด
ขณะเดียวกัน การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็จะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญ ที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะคงอัตรา Deposit Facility Rate ไว้ที่ 2% แต่สิ่งที่น่าจับตามากกว่าคือมุมมองและการแถลงของ Christine Lagarde ประธาน ECB หลังจากที่กรรมการ ECB บางคนเริ่มแสดงท่าทีว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้วและไม่จำเป็นต้องลดเพิ่มเติม ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางนโยบายการเงินของยุโรป
ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ควรติดตาม ได้แก่ ตัวเลข GDP 2Q25 รอบสุดท้ายของญี่ปุ่น ตัวเลขส่งออกจีนที่คาดว่าจะชะลอตัวลง และเงินเฟ้อจีนที่คาดว่าจะยังลดลง 0.2% รวมถึงผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Oracle, Synopsys และ Adobe และการรายงานรายได้ประจำเดือนสิงหาคมของ TSMC
- เราประเมินว่าตลาดหุ้นโลกจะยังคงผันผวนสูงตามปัจจัยมหภาคเป็นหลัก แต่ยังมองภาพเป็น Sideways up ขึ้นได้ และยังคงมุมมองเหมือน Monthly report ที่ว่าตลาดในเดือนกันยายนปีนี้อาจไม่ได้ย่อตัวลงแรงมากนัก จากการที่มี One Big Beautiful Bill, เฟดส่งสัญญาณ Dovish ที่การประชุม Jackson Hole และผลประกอบการที่ดีกว่าคาดอย่างมากใน 2Q25
จึงแนะนำให้ทยอยลงทุน K-GSELECTU-A(A) เป็น Core Portfolio เมื่อหุ้นโลกย่อตัวลงราว 1-2% เพื่อเป็นการเฉลี่ยต้นทุน และยังคงมองบวกมากกับหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ และแนะนำลงทุน KKP TECH-UH ที่เน้นกลุ่ม Technology และ Communication Services เป็น Satellite Portfolio ระยะ 12 เดือน โดยล่าสุดผลประกอบการ Broadcom บ่งชี้ Hyperscaler เร่งลงทุนใน XPU และเตรียม Ramp up รายได้จากการ Inferencing ในปีหน้า ด้านตราสารหนี้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ (10Y UST) ได้ปรับตัวลงต่ำกว่า 4.25% แล้ว แต่เรายังคงมองให้ทยอยทุนกองทุน UGISFX-N เมื่อ (10Y UST) รีบาวด์ขึ้นใกล้ 4.25% ขึ้นไป และจะทำการปรับกรอบอีกครั้งหลังการประชุม FOMC ที่จะมีการเปิดเผย Dot Plot และด้วยค่าบาทที่แข็งค่ามากเกินไป เรายังแนะนำเลือก Unhedged Class สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ เพื่อลดต้นทุน Hedge
สำหรับ Satellite Portfolio ระยะสั้น 3-6 เดือน แนะนำ ONE-FFI เพื่อเก็งกำไรจากค่าบาทในระดับที่ยังแข็งค่ามาก โดยแนะนำทยอยสะสมในกรอบ 32-33.5 บาท/ดอลลาร์ ตัดขาดทุนเมื่อค่าบาทแข็งกว่า 31.50 บาท/ดอลลาร์ และมีเป้าหมายกำไรที่ 35 บาท/ดอลลาร์
Implication
Buy lists
Satellite port (สำหรับช่วง 6 - 12 เดือน)
- KKP TECH-UH: กองทุนหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares Expanded Tech หรือ IGM (ETF) เน้นลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ในกลุ่ม Technology และ Communication Services โดย IGM (ETF) ปรับตัวขึ้นราว 1.88% ในสัปดาห์ที่แล้ว หนุนโดย Google ที่คลาย Overhang คดีผูกขาดกับยุโรป และ Broadcom ที่ผลประกอบการดีมาก ส่งสัญญาณ Hyperscaler เร่งลงทุน XPU สำหรับงาน Inferencing ในปีหน้า นอกจากนี้ Foxconn ยังมีรายได้เดือนสิงหาคมในส่วนของ AI servers ที่โตถึง 3 เท่า MoM
- สำหรับกลุ่มเทคฯ สหรัฐฯ สัปดาห์นี้ติดตามผลประกอบการของ Oracle, Synopsys และรายได้ประจำเดือนสิงหาคมของ TSMC โดยเราคงคำแนะนำซื้อ โดยเฉพาะเมื่อ IGM (ETF) มีการย่อตัวลง โดยมีกรอบการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
- K-JP-A(D): กองทุนหุ้นญี่ปุ่นที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Lazard Japanese Strategic มีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มการเงินราว 20% โดยหุ้นญี่ปุ่นกลับมาปรับตัวขึ้น Topix +0.98% หนุนโดยหุ้นในกลุ่มยานยนต์ หลังทรัมป์ลงนามคำสั่งบริหารอย่างเป็นทางการเพื่อใช้ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น โดยมีผลย้อนหลังถึง 7 สิงหาคม 2025 ว่าด้วยการกำหนดภาษีพื้นฐานที่ 15% สำหรับสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น และยังได้ปัจจัยบวกจากค่าจ้างที่เติบโตขึ้น 2.5% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 7 เดือน
- สำหรับญี่ปุ่น สัปดาห์นี้ให้ติดตามความคืบหน้า Candidate หัวหน้าพรรค LDP หลังนากยกอิชิบะลาออก รวมถึงติดตามตัวเลข GDP 2Q25 ซึ่งเป็นการรายงานรอบสุดท้าย โดยเรายังคงคำแนะนำซื้อเมื่อดัชนี Topix มีการย่อตัวลง โดยมีกรอบการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
Satellite port (สำหรับช่วง 3 - 6 เดือน)
- ONE-FFI: กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นโดยปัจจุบันมี Port Duration ที่ 4 เดือน 24 วัน และมี Yield to Maturity ที่ 4.08% ต่อปี กองทุนไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedged) ซึ่งเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เรามองว่าค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไปตรงข้ามกับปัจจัยพื้นฐาน
- เราแนะนำลงทุนเมื่อ USD/THB อยู่ในกรอบ 32 – 33.50 โดยมีเป้าหมายการทำกำไรที่ 35/USD และจุดตัดขาดทุนที่ 31.5/USD
Holding lists
Satellite port (สำหรับช่วง 6 - 12 เดือน)
- TUSFIN-A: กองทุนหุ้นกลุ่มการเงินในสหรัฐฯ ลงทุนผ่านกองทุนหลัก XLF (ETF) โดยหุ้นในกลุ่มการเงินสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรง -1.7% โดยเป็นผลหลักๆ มาจากวันศุกร์ที่ตัวเลข Nonfarm อ่อนแอกว่าคาดมาก ส่งผลให้เกิดความกังวลในด้านเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตามเรามองว่าหากเงินเฟ้อที่จะรายงานในสัปดาห์หน้าออกมาตามคาด น่าจะช่วยให้หุ้นในกลุ่มนี้ฟื้นตัวขึ้นได้
- เราแนะนำ Let profit run และให้ติดตามตัวเลข Macro อย่างเช่น อัตราเงินเฟ้อทั้ง CPI และ PPI

เปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมกับ KS ลงทุนได้หลากหลาย บลจ. >> https://ksecurities.co/Open-Account_Fund
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #กองทุน #ผลตอบแทน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #FUND #กลยุทธ์การจัดพอร์ต