Daily View

Daily View

Daily View

Daily View

KS Daily View 21 พ.ค. 2025

KS Research Strategy Analysis by KS Research Strategy
May 21, 2025

KS Daily View 21.05.2025 >>> ตลาดรอความคืบหน้าการเจรจา ก่อนหมดช่วงผ่อนปรนในเดือน ก.ค. SET Index วันนี้ แกว่งตัวในกรอบ 1,175-1,205 หุ้นแนะนำ STECON และ PTTGC

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ดัชนี S&P500 ลดลง 0.39%, Nasdaq Composite ลดลง 0.38% และ Dow Jones ลดลง 0.27% จากแรงกดดันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พยายามโน้มน้าวสมาชิกรัฐสภาของพรรครีพับลิกันให้ผ่านร่างกฎหมายปรับลดภาษีครั้งใหญ่อาจทำให้หนี้ของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,189.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.08 จุด (+0.18%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มธนาคารซึ่งคาดว่าได้แรงหนุนจากแรงเก็งกำไรการซื้อของกองทุน ThaiESGX ที่อาจใช้ Benchmark เป็น SETESG ที่มีการลงทุนน้ำหนักในกลุ่มธนาคารมากกว่าเมื่อเทียบกับ SET100 ทั้งนี้เราคาดการณ์ว่า SET Index ของไทยมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบ 1,175-1,205 จากตลาดรอปัจจัยบวกใหม่หลังได้รับรู้ข่าวดีไปแล้วในช่วงที่ผ่านมาและตลาดจับตาดูความคืบหน้าของการเจรจาก่อนที่จะหมดช่วงผ่อนปรนในเดือน ก.ค. นี้และมองว่าตลาดในระยะนี้อาจมีความเปราะบางและทิศทางไม่ชัดเจน อาจต้องระมัดระวังมากขึ้นหากมีปัจจัยเชิงลบมากระทบ ตลาดอาจพลิกเป็นการปรับตัวลงได้ ด้วยสภาพแวดล้อมการลงทุนตึงตัว เราจึงแนะนำการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและลุ้นการฟื้นตัวของของราคาหุ้นระยะสั้นแนะนำ STECON และ PTTGC

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1)คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนฯ ฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อรองรับนโยบายค่าโดยสารไม่เกิน 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทางได้ภายใน 30 กันยายน 2025 ทั้งนี้เตรียมแนวทางศึกษาซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าทุกสายในอนาคต เรามองเป็นบวกกับ BTS BEM STECON จากปริมาณผู้โดยสายที่เพิ่มขึ้น
2)SENA ประกาศร่วมทุนกับ Mitsubishi Logistics Corporation จากญี่ปุ่น พัฒนาโครงการคลังสินค้า-โรงงานที่บางนา กม.23 โดยนำเทคโนโลยีและพลังงานสะอาดมาใช้อย่าง ระบบพลังงานแสงอาทิตย์และออกแบบโครงสร้างรองรับ EV และการติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์แนวทาง ESG และ Carbon Neutral
3)รัฐบาลเวียดนามเปิดเผยว่าได้เริ่มการเจรจาการค้ารอบที่ 2 กับสหรัฐฯ ณ กรุงวอชิงตัน ระหว่างวันที่ 19–22 พฤษภาคม 2025 เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 46% ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจเวียดนามที่พึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ก่อนจะหมดช่วงผ่อนปรนในเดือนกรกฎาคม มองว่าต้องติดตามสถานการณ์การเจรจาของไทยประกอบ หากประเทศเพื่อนบ้านสามารถดีลทางการค้าได้ขณะที่ไทยได้ดีลที่น้อยกว่าหรือเจรจาไม่สำเร็จอาจส่งผลกระทบเชิงลบกับการส่งออกและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ
4)ฮอนด้า มอเตอร์ ประกาศลดแผนการลงทุนในเทคโนโลยี EV เหลือ 7 ล้านล้านเยน จากเดิม 10 ล้านล้านเยนจนถึงปี 2030 พร้อมทั้งเลื่อนแผนสร้างโรงงาน EV และแบตเตอรี่ในแคนาดาออกไปอีกสองปีจากการเติบโตของตลาด EV ในอเมริกาเหนือและยุโรปต่ำกว่าที่คาด มองเป็นลบเล็กน้อยต่อจิตวิทยาการลงทุนกับ KCE
5)ธปท. ได้เปิดเผยว่าธนาคารพาณิชย์ไทยยังคงมีความมั่นคงด้วยระดับเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องที่สูง ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อหดตัว 1.3% YoY จากการชำระหนี้ที่สูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อ SMEs และสินเชื่ออุปโภคบริโภคที่ยังหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ NPL เพิ่มขึ้นเป็น 2.90% ของสินเชื่อรวม โดยหลักจากสินเชื่อ SMEs และที่อยู่อาศัย ทั้งนี้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงตามอัตราดอกเบี้ยและความสามารถในการชำระหนี้ยังต้องจับตามองท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลกและกำลังซื้อในภาคอสังหาฯ ที่ชะลอตัว เรามองว่าแนวโน้มกำไรของกลุ่มธนาคารอาจชะลอตัว YoY, QoQ ใน 2Q25 จากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ loan growth ที่ติดลบ รวมไปถึง investment gain ที่ชะลอตัว
6)ประธานาธิบดีโดนัลด์โน้มน้าวสมาชิกพรรครีพับลิกันให้สนับสนุนร่างกฎหมายปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งสานต่อจากกฎหมายปฏิรูปภาษีปี 2017 ขณะที่สมาชิกบางกลุ่มในพรรคไม่เห็นด้วยหลังจากที่ Moody's มีการปรับลด Credit rating ของสหรัฐ อาจส่งผลให้ลงมติคว่ำร่างกฎหมายดัง

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
STECON: ราคาพื้นฐานที่ 9.87 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ STECON จากรายงานผลประกอบการหลัก 1Q25 ที่ 341.5 ลบ. (+716% YoY และ -52% QoQ) สูงกว่าประมาณการของเราไป 22% ทั้งนี้มองว่ากำไรใน 2Q25 อาจเติบโตขึ้นทั้ง YoY, QoQ จากผลขาดทุนบึงหนองบอน (BNB)ที่หมดไปในปีที่ผ่านมา รวมไปถึงเก็งการรับรู้ผลขาดทุนรถไฟฟ้าสีชมพูน้อยลงจากการเปลี่ยนมาตรฐานการบัญชี ในส่วนของ backlog อยู่ที่ระดับ 1.25 แสนลบ. ณ 1Q25 (+30% YoY และ +7.7% QoQ) คิดเป็นการลงนามในโครงการใหม่มูลค่า 1.6 หมื่นลบ.ใน 1Q25 จากโครงการภาคเอกชน 2 โครงการ โดย backlog ล่าสุดอาจครอบคลุมการคาดการณ์รายได้ 4 ปีของเรา

PTTGC: ราคาพื้นฐานที่ 20.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ PTTGC มากขึ้นหลังผู้บริหารของ PTTGC ได้ปรับเป้าหมายการลดต้นทุนและการเพิ่มรายได้ขึ้นจาก 4.5 พันลบ.เป็น 5.5 พันลบ. ใน 1Q25 ได้มีการรับรู้ไปแล้ว 800 ลบ. และคาดว่าจะรับรู้เพิ่มอีก 1.0 พันลบ.ใน 2Q25 ประกอบกับธุรกิจ Vencorex ในฝรั่งเศสจะถูกตัดออกจากงบการเงินของ PTTGC ใน 2Q25 จะช่วยลดผลกระทบบางส่วนจากขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันประมาณ 2.2 พันลบ. ขณะที่กำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ถึงปี 2026 จะได้ประโยชน์จากการขายสินทรัพย์เพิ่มเติม ตามแผนโครงการขายสินทรัพย์ มูลค่ารวมประมาณ 3 หมื่นลบ. ที่ไม่กระทบต่อการดำเนินงานหรือการผลิตของบริษัท ซึ่งจะช่วยปรับปรุง ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) และลดอัตราหนี้สินสุทธิต่อกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)ให้อยู่ต่ำกว่า 4 เท่า

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันพุธ ติดตามรายงานตัวเลขส่งออกจากกระทรวงพาณิชย์ (TH MOC Export) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.6% YoY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 17.8% YoY และตัวเลขนำเข้า (TH MOC Import) ตลาดคาดการณ์ที่ 7.8% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 10.2% YoY

วันพฤหัสบดี ติดตามยอดขายรถใหม่ของประเทศไทย (New car sales) เดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 55,789 คัน ต่อด้วยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของโซนยุโรปเบื้องต้น (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.3 จุดเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.0 จุด และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐ (S&P Global US Manufacturing PMI Flash) เดือน พ.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ 49.8 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้ารายงานที่ 50.2 จุด ต่อด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดคาดการณ์ที่ 2.30 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.29 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 3.6% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า และเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ 3.0% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.9% YoY ปิดท้ายด้วยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐรายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New home sale) เดือน เม.ย. ตลาดคาดที่ 6.90 แสนหลังชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.24 แสนหลัง

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
ดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมผ่านแอป KS TRADE+ โหลดเลย >> https://ksecurities.co/KSTradePlus

Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW

Daily View

KS Daily View 13 มิ.ย. 2025
Jun 13, 2025

KS Daily View 13 มิ.ย. 2025

KS Daily View 12 มิ.ย. 2025
Jun 12, 2025

KS Daily View 12 มิ.ย. 2025

KS Daily View 11 มิ.ย. 2025
Jun 11, 2025

KS Daily View 11 มิ.ย. 2025

KS Daily View 10 มิ.ย. 2025
Jun 10, 2025

KS Daily View 10 มิ.ย. 2025

KS Daily View 9 มิ.ย. 2025
Jun 9, 2025

KS Daily View 9 มิ.ย. 2025

KS Daily View 06 มิ.ย. 2025
Jun 6, 2025

KS Daily View 06 มิ.ย. 2025