☀️KS Daily View 19 ธ.ค. 2025>>> ประเมินกรอบ SET index ที่ 1,240-1,260 จุด บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นโลกกลับมาเป็นบวกอีกหลัง US CPI เดือนพฤศจิกายน ชะลอตัวต่ำกว่าคาด ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังคงไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา แนะนำ SAWAD และ GULF
📊 แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นโลกกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤศจิกายน ชะลอตัวต่ำกว่าคาด สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงจากระดับเดือนกันยายนและหนุนแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดในปีหน้า ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีหน้า ในส่วนของไทยตลาดได้ให้น้ำหนักที่ ธปท. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีหน้า ด้วยแนวโน้มของการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่มากกว่าอาจหนุนให้ค่าเงินบาทยังคงแข็งตัวในระยะสั้น ในส่วนของปัจจัยที่ต้องติดตามเพิ่มเติมของสัปดาห์หน้า การประชุมพิเศษระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 22 ธ.ค. ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในการหารือการหยุดยิงและข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา หากมีการหยุดยิงจะหนุนให้บรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดตลาดที่ 1,250.07 ลดลง 6.78 จุด (-0.54%) จากแรงกดดันของการปรับตัวของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ค้าปลีก และการเงิน ในวันนี้เราประเมินกรอบ SET index ที่ 1,240-1,260 จุด จากตลาดยังคงไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ SAWAD และ GULF
🚩ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤศจิกายน ชะลอตัวต่ำกว่าคาด โดย CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.7% YoY และ Core CPI เพิ่มขึ้น 2.6% YoY สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงจากระดับเดือนกันยายนและหนุนแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดในปีหน้า โดย FedWatch Tool ชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 47% สำหรับการลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมี.ค. และคาดว่าจะลดครั้งที่สองในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปลายปี 2026 ตลากคาดการณ์ดอกเบี้ยที่ 3.00-3.25%
- อังกฤษเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียด้วยการขึ้นบัญชีดำบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่ยังไม่เคยถูกคว่ำบาตร 4 แห่ง และมูร์ตาซา ลัคฮานี ผู้ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทสำคัญในการค้าขายน้ำมันรัสเซีย เพื่อจำกัดความสามารถของมอสโกในการส่งออกพลังงาน ท่ามกลางการประสานแรงกดดันกับ EU ที่คว่ำบาตรกองเรือเงาเพิ่มเติมที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น มองเป็นบวกเล็กน้อยกับ PTTEP
- ททท.จับมือสำนักงานการท่องเที่ยว วัฒนธรรม วิทยุ โทรทัศน์ และกีฬา เมืองไหโขว่ และบริษัท Tongcheng Travel Holdings ยักษ์ใหญ่ด้านท่องเที่ยวออนไลน์ของจีน เพื่อเสริมกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบทูเวย์ระหว่างไทย–จีนอย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ การจัดแฟร์ โรดโชว์ เทรดโชว์ การแลกเปลี่ยน KOLs รวมถึงการพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเมืองไหโขว่บนเกาะไห่หนานกับประเทศไทย ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวสำคัญของจีน มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง CENTEL ERW AWC SHR
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย SPEED Act เพื่อเร่งการอนุญาตโครงการพลังงาน โครงการโครงสร้างพื้นฐานพลังงานขนาดใหญ่ ศูนย์ข้อมูล (Data center) และโรงงานอุตสาหกรรม ตามเป้าหมายของร่างกฎหมายสอดคล้องกับวาระของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการขยายอุตสาหกรรมพลังงาน เหมืองแร่ และภาคการผลิตในประเทศ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับ BCPG
- ธปท. เปิดเผยว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังถึงแนวคิดให้กระทรวงการคลังเข้ามากำกับดูแลธุรกิจทองคำ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มซื้อขายทองคำออนไลน์ เนื่องจากมีผู้ค้าทองประมาณ 15 ราย และมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึงราว 50% ต่อจีดีพี ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการรายใหญ่ 3–4 รายที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ ทั้งนี้ การซื้อขายทองคำของรายใหญ่ที่มีการขายดอลลาร์และซื้อเงินบาทอาจส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่า จึงเห็นความจำเป็นต้องมีหน่วยงานกำกับดูแล
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
🎯 SAWAD: ราคาพื้นฐาน 29.00 บาท
เรามองผลประกอบการของบริษัทมีแนวโน้มฟื้นตัวจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ลงเหลือ 150-180bps ในปี 2026 เทียบ 180-200bps ในปี 2025 อีกทั้งผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ถูกยึดลดลงอย่างต่อเนื่องโดยจะต่ำกว่า 100 ลบ.ต่อไตรมาสในปี 2026 เทียบกับ 137 ลบ.ในไตรมาส 3/2568 นอกจากนี้อุปสงค์สินเชื่อเช่าซื้อ (HP) ที่อ่อนแอจะถูกชดเชยด้วยความต้องการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่แข็งแกร่งมาก ทำให้สินเชื่อโดยรวมของบริษัทปีหน้าอาจโตได้ 10-15% รวมถึงบริษัทได้ประโยชน์จากต้นทุนดอกเบี้ยที่อยู่ในแนวโน้มขาลงทำให้บริษัทสามารถประหยัดต้นทุนทางการเงินส่งผลให้อัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2026-27
🎯 GULF: ราคาพื้นฐาน 61.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GULF จากการเติบโตของกำไรในปี 2026-27 เราคาดว่ากำไรจะเติบโตแข็งแกร่ง 9%/14% จาก 1) การทยอย COD โครงการโซลาร์ฟาร์ม 7 แห่ง รวมกำลังการผลิต 600MW ตั้งแต่ไตรมาส 4/2025 เป็นต้นไป 2) ปริมาณนำเข้า LNG ที่เพิ่มขึ้นจาก 50 คาร์โก ในปี 2025 เป็นราว 70 คาร์โก ในปี 2026 3) ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า Jackson ในสหรัฐฯ (1,200MW สัดส่วนถือหุ้น 49%) จากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายที่สูงขึ้นตามอุปสงค์ศูนย์ข้อมูล ในตลาด PJM และ 4) การรับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นจาก ADVANC
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
✅วันศุกร์ ติดตามผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps จากเดิมที่ระดับ 0.50% เป็น 0.75%
*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

📝 เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!
📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW
ภาษาไทย
English