KS Daily View 17 ธ.ค. 2025

KS Daily View 17 ธ.ค. 2025

วิเคราะห์โดย KS Research Strategy
17 ธ.ค. 2568
ย้อนกลับ

KS Daily View 17.12.2025 >>> วันนี้จับตาผลประชุม กนง. คาดหวังปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย SET วันนี้กรอบ 1250-1,260 แนะนำ TFG และ CKP

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดตลาดที่ 1,260.68 ลดลง 12.72 จุด (-1.00%) จากการลดลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก โดยเฉพาะราคาหุ้น DELTA ที่ปรับตัวลงกว่า 5.38% ตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐปรับลดลงในคืนก่อนหน้า หากไม่รวมการปรับตัวของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ SET จะปรับตัวลดลง 2.70 จุด

วันนี้มองว่าตลาดจับตาดูผลการประชุมของ กนง. คาดหวังเห็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps จาก 1.50% เป็น 1.25% อย่างไรก็ดี หากไม่ลดอาจกลายเป็นสร้างแรงกดดันเชิงลบใหม่ โดยมองว่า Theme การลงทุนในช่วงนี้อาจเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นตามปัจจัยบวกเฉพาะตัวเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาในตลาดช่วงระหว่างรอการเลือกตั้งจนกว่าจะเห็นแคมเปญของพรรคการเมืองต่างๆในช่วงการหาเสียง ในขณะเดียวกันค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบกับ USD สูงสุดในรอบ 4 ปี (-3% จากไตรมาสก่อนหน้า) อาจเห็นแรงเก็งกำไรต่อเนื่องในกลุ่มของ สายการบิน (THAI, AAV, BA) โรงไฟฟ้า (BGRIM, CKP) จากแนวโน้มของกำไร 4Q25 ได้แรงหนุนจาก extra gain ในส่วนของ financial liability revaluation ในส่วนของกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำ TFG ที่คาดว่าอุปสงค์ปศุสัตว์ในประเทศจะเร่งตัวขึ้นในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน และ CKP จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบกับ USD อาจเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทเนื่องจากบริษัทมีหนี้ในสกุลเงิน USD

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน

  1. ธปท. กำหนดแนวทางกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์–จักรยานยนต์เข้มข้นขึ้น หลังมีข้อร้องเรียนจำนวนมากเกี่ยวกับการให้บริการมีค่อนข้างสูง อาทิ การให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ไม่สอดคล้องกับรายได้ ปัญหาค่าธรรมเนียม และปัญหายอดหนี้ ซึ่งยังไม่มีกฎหมายควบคุมทั้งนี้ ธปท.มีแผนกำหนดเกณฑ์กำกับที่เข้มข้นและละเอียดมากขึ้นในปี 2026 มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบเล็กน้อยกับกลุ่มการเงิน อย่าง MTC SAWAD TIDLOR
  2. หลังสหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันเวเนซุเอลาและเพิ่มมาตรการคว่ำบาตร ลูกค้าน้ำมันโดยเฉพาะโรงกลั่นในจีนได้เรียกร้องส่วนลดที่มากขึ้นกับบริษัทน้ำมันของรัฐ PDVSA ส่งผลให้ส่วนลดน้ำมันขยายกว้างถึง 21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังเผชิญการแข่งขันรุนแรงขึ้นในจีน จากน้ำมันราคาถูกภายใต้การคว่ำบาตรจากรัสเซียและอิหร่าน ด้วยภาพของตุ้นทุนราคาน้ำมันของโรงกลั่นในจีนอาจนำไปสู่ pricing strategy และอาจส่งผลให้ GRM ของกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP SPRC BCR BSRC ถูกกดดันในอนาคต
  3. เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซลเผยว่า ในปี 2025 นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เดินทางมาไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือราว 1.4 ล้านคน จาก 1.8 ล้านคนในปีก่อน จากผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัวและกระแสข่าวเชิงลบเรื่องความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาและอาชญากรรมข้ามชาติ ด้วยสถานการณ์ดั้งกล่าวเอกอัครราชทูตเตรียมหารือกับ ททท. เร่งกระตุ้นตลาดเกาหลีใต้ช่วงฤดูหนาว ผ่านการทำตลาดกับอินฟลูเอนเซอร์ และเชื่อว่าการแต่งตั้ง “ลิซ่า” เป็น Amazing Thailand Ambassador จะช่วยดึงความสนใจและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้การท่องเที่ยวไทยในตลาดเกาหลีใต้ได้ มองเป็นบวกเล็กน้อยกับกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง CENTEL ERW AWC SHR
  4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า คนละครึ่ง พลัส เฟส 2 รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากติดข้อกฎหมายหลังการยุบสภา หลังจากได้มีการหารือกับ กกต. โดยยืนยันว่าคณะรัฐมนตรีรักษาการไม่สามารถผูกพันงบประมาณตามรัฐธรรมนูญ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับกลุ่มค้าปลีก
  5. TTB เดินหน้าโครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี วงเงินรวม 21,000 ล้านบาท โดยปรับแผนการซื้อหุ้นคืนครั้งที่ 2 ให้เร็วขึ้นและเพิ่มวงเงินเป็น 8,900 ล้านบาท หลังการปลดล็อกกฎระเบียบด้านการซื้อหุ้นคืน พร้อมใช้วิธี General Offer ระหว่างวันที่ 22 มกราคม–4 กุมภาพันธ์ 2026 เพื่อซื้อหุ้นคืนในระยะเวลาสั้นและไม่กระทบสภาพคล่องตลาด ธนาคารย้ำเป้าหมายสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้น ผ่านการเพิ่ม ROE และ EPS โดยยังคงรักษาระดับเงินกองทุนแข็งแกร่งกว่า 19%

Daily pick

TFG: ราคาพื้นฐาน 6.70 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TFG จากแนวโน้มของราคาสุกรในประเทศอาจปรับตัวขึ้น จากอุปสงค์ปศุสัตว์ในประเทศจะเร่งตัวขึ้นในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ต้นทุนอย่างกากถั่วเหลืองใน 4Q25 ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทรงตัวจากไตรมาสก่อหน้าแต่ลดลง 22.5% YoY ที่หนุนให้ GPM ใน 4Q25 มีการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้าตามราคาหมูที่ฟื้นตัว ทั้งนี้ผู้บริหารคาดว่าการเติบโตของยอดค้าปลีกจะอยู่ที่ 30% ในปี 2026โดยมีเป้าหมายจำนวนสาขาที่ 850 สาขาภายในสิ้นปี 2026 หนุนให้รายได้และกำไรยังคงเติบโตตต่อเนื่อง

CKP: ราคาพื้นฐาน 3.70 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CKP จากโมเมนตัมการเติบโตของกำไรใน 4Q25 ยังเพิ่มขึ้น YoY จากจากปริมาณการขายไฟฟ้าพลังน้ำที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเทียบกับ us dollar สูงสุดในรอบ 4 ปี ซึ่ง USD/THB ได้ปรับตัวลดลง -3% จาก ณ สิ้น 3Q25 อาจเอื้อประโยชน์ต่อ CKP ด้วยที่มีหนี้ในสกุลเงิน us dollar จาก financial revaluation ส่งผลให้อาจมี extra gain ในไตรมาสนี้

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันพุธ ติดตามติดตามการประชุม กนง. ของไทย โดยตลาดคาดว่ากนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps เหลือ 1.25% จากครั้งก่อนหน้าที่ 1.50% และตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรป (EU CPI) เดือน พ.ย. ครั้งสุดท้ายตลาดคาดการณ์ที่ +2.2% YoY ทรงตัวเดือนก่อนหน้า

วันพฤหัสบดี ติดตามผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB interest rate decision) ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า และการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (US CPI) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.1% YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US core CPI) ตลาดคาดที่ +3.0% YoY

วันศุกร์ ติดตามผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps จากเดิมที่ระดับ 0.50% เป็น 0.75%

Dailyview_17_12_2025_01.jpg

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
ดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมผ่านแอป KS TRADE+ โหลดเลย >> https://ksecurities.co/KSTradePlus

Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW

ค้นหา